ย้อนไป ดูเทรนด์ในทวิตเตอร์กันก่อน ทีมข่าวพีพีทีวี สำรวจในแฮชแท็กไฟเซอร์นักเรียน ส่วนใหญ่พบว่ามีหลายความเห็นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นักเรียนเปลี่ยนใจไม่อยากฉีดแล้วเพราะกลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน บางคนฉีดไปแล้วไม่พบผลข้างเคียงจึงอยากให้ทุกคนฉีด บางคนอยากฉีดแต่ไม่มีวัคซีนทำให้ถูกตัดชื่อออกก่อนเพราะวัคซีนไม่เพียงพอ
ขณะเดียวกันกลุ่มนักศึกษาก็ได้ออกมาเรียกร้องขอฉีดวัคซีนไฟเซอร์ด้วยเพราะมองว่าอยู่ในวัยเรียนเหมือนกันและนักศึกษาควรเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้ฉีดไฟเซอร์ด้วยซึ่งที่ผ่านมาก็เรียนออนไลน์มาตลอด
เปิดผลฉีดไฟเซอร์ให้เด็กในสหรัฐฯ หลังนร.ไทยเกิดดราม่า #ไฟเซอร์นักเรียน
ดราม่า #ไฟเซอร์นักเรียน เด็กเชื่อเฟกนิวส์ TikTok จนกลัววัคซีน ชาวเน็ตวอน "ไปฉีดเถอะ"
อย่างนักศึกษาคนนี้เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาเรียกร้องขอวัคซีนไฟเซอร์เพราะเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดนี้และมองว่า ตัวเองก็ยังอยู่ในวัยเรียนและเรียนออนไลน์มาตลอดจึงอยากฉีดวัคซีนไฟเซอร์ด้วยเพื่อจะได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามปกติ
เปิดเกณฑ์ สปสช.เข้าข่ายจ่ายเงินเยียวยาให้นักเรียนหากเกิดผลข้างเคียงวัคซีนไฟเซอร์
อีกหนึ่งปัญหาที่พบคือนักเรียนถูกตัดชื่อและไม่ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ตามวันที่ได้นัดหมาย เพราะทางโรงเรียนแจ้งว่าวัคซีนไม่เพียงพอ ประเด็นนี้ทีมข่าวสอบถาม นายแพทย์ เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน นพ.เฉวตสรร เปิดเผยว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องการจัดการแผนในระดับพื้นที่ทำให้การนัดหมายไม่สอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ได้ ซึ่งในล็อตสัปดาห์แรกมีการจัดสรรวัคซีนไปตามพื้นที่ต่าง ๆ 1.8 ล้านโดส และจะทยอยส่งเพิ่มไปอีกทุก ๆ สัปดาห์ มั่นใจว่านักเรียนได้ฉีดวัคซีนทุกคนแน่นอน ส่วนในพื้นที่เองก็ต้องบริหารจัดการวัคซีนว่ามีการกระจายไปกี่จุด จุดละเท่าไหร่ จะทำให้ลดความคลาดเคลื่อนลงได้
ขณะที่หลายพื้นที่เริ่มฉีดวัคซีนให้นักเรียนแล้ว ก็จะมีคลิปต่างๆแชร์เรื่องราว ออกมาเช่นกัน อย่างเมื่อวานเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1” แชร์คลิปวิดีโอนักเรียนเป็นลมจากการฉีดวัคซีนทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ ทีมข่าวได้สอบถามผู้ปกครองนักเรียนคนนี้ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่ใช่ผลข้างเคียงของวัคซีน แต่เพราะน้องกลัวเข็มจึงเป็นลมในขณะไปฉีดวัคซีน และหลังจากฉีดวัคซีนแล้วน้องไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เลย มีเพียงปวดบริเวณที่ฉีดเท่านั้น
ผู้ปกครองคนนี้ ยังบอกว่า ช่วงแรกรู้สึกกังวลกับข้อมูลที่ได้รับมาจึงถามความสมัครใจของลูกและเห็นว่าลูกอยากฉีดจึงตัดสินใจให้ฉีดเพราะวัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพดีที่สุดแล้ว เมื่อฉีดแล้วลูกก็จะได้เรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ
ผู้ปกครองบดินทร์เดชา เกือบ 100% ให้ฉีดวัคซีน
ระวัง! ฉีดสารแปลกปลอมเข้าผิวหนัง เสี่ยงเกิดอาการแพ้ - ติดเชื้อที่ผิวหนัง