ไตรกลีเซอไรด์ คือไขมันชนิดหนึ่งในร่างกาย เกิดขึ้นได้จากการรับประทานไขมัน ซึ่งอยู่ในอาหาร อาทิ มันหมู กะทิ เป็นต้น เมื่อเรารับประทานเยอะจนเกินไป ไม่ว่าจะอายุเยอะหรือน้อยก็มีโอกาสพบค่าไตรกลีเซอไรด์สูงได้ อีกทั้งยังสามารถเกิดได้กับคนที่ชอบรับประทานน้ำตาล เพราะถ้าน้ำตาลในเลือดสูงร่างกายก็จะทำการเปลี่ยนรูปไปเป็นไตรกลีเซอไรด์ได้ รวมไปถึงคนที่รับประทานยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด หรือคนที่เป็นโรคบางชนิด เช่น กลุ่มโรคไทรอยด์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นได้เช่นกัน
ภัยเงียบ "ไขมันพอกตับ" มีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้กับทุกคน
อย่าชะล่าใจ ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน เสี่ยงเส้นเลือดสมองโป่งพอง
สำหรับระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในการตรวจสุขภาพ (เมื่อเรางดน้ำ งดอาหารประมาณ 8-10 ชั่วโมง)
- โดยปกติ ต้องมีระดับไขมันในเลือดต่ำกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
- ระดับไขมันในเลือด 150-199 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จัดอยู่ใน ระดับไตรกลีเซอไรด์ค่อนข้างสูง
- ระดับไขมันในเลือด 200-499 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จัดอยู่ใน ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง
- ระดับไขมันในเลือดมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จัดอยู่ใน ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงมาก
- ถ้าไขมันในเลือดที่สูงมากกว่า 500 หรือมากกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อเดซิลิต จัดว่ามีความเสี่ยงในเรื่องตับอ่อนอักเสบ
การปล่อยให้ค่าไตรกลีเซอไรด์ในเลือด สูงเป็นเวลานาน ๆ ถือว่าเป็นการสร้างปัญหาให้กับ 4 อวัยวะสำคัญของร่างกาย คือ ตับ ไต หัวใจ และสมองเพราะนอกจากจะทำให้ตับอ่อนอักเสบ อาจส่งผลกับหลอดเลือดแข็งทำให้เพิ่มความเสี่ยงเรื่องของหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย
ซึ่งการจะลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ คือ น้ำมันปลา (Fish oil) แต่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็น ‘น้ำมันตับปลา’ โดยใน Fish oil จะมีสารตัวหนึ่งที่เราเรียกว่า Omega-3 fatty acids หรือกรดไขมันโอเมกา 3 โดยปกติแล้วคนเราต้องการกรดไขมันโอเมกา 3ประมาณ 500 มิลลิกรัมถึง 1 กรัม แต่การลดไตรกลีเซอไรด์จะต้องใช้ประมาณ 2-4 กรัม ซึ่งมากกว่าความต้องการประมาณ 4-8 เท่า ทำให้เราต้องกินโดสเยอะ ขณะที่น้ำมันตับปลาจะมีวิตามินเอ มีวิตามินดี ซึ่งอาจมี Fish oil อยู่บ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งไม่มีผลกับการลดไตรกลีเซอไรด์
ดังนั้นการกินอาหาร จึงเป็นเรื่องสำคัญ หากต้องการลดระดับ ไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ก็ต้องรู้จักการรับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ รู้จักคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์คงที่ หากอ้วน ให้ลดน้ำหนักลงมาประมาณ 5% รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอล์ และใน 1 สัปดาห์ ควรออกกำลังกายประมาณ 3-5 ครั้ง ให้ได้ประมาณ 150 นาที หรือประมาณวันละ 30-50 นาที เป็นวิธีที่จะช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ได้
นักโภชนาการแนะอาหารที่เหมาะกับ "เหล่าประธานบริษัท" ช่วยบำรุงสมอง - ผ่อนคลายความเครียด
แนะ 3 ชนิดกีฬาสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ ไว้ออกกำลังกายและควรทำอย่างไม่หักโหม
ที่มา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล