ในแต่ละวันที่สายตาของเราจับจ้องบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ทั้งเพื่อทำงาน การเรียน ช็อปปิ้ง หรือเล่นเกมส์ เมื่อจ้องนาน ๆ ทำให้เราใช้สายตามากเกินไปในแต่ละวันโดยไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันแสงสีฟ้าจากจอ ก็ทำให้เกิดภาวะตาล้า จอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น
ยังไม่นับรวมพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การอยู่ในที่แจ้งนาน ๆ ดื่มสุรา สูบบุหรี่ อายุที่มากขึ้น เป็นต้น ดังนั้นเราจึงต้องถนอมสายตา ก่อนที่มันจะเสื่อมสภาพไปก่อนวัยอันควร โดยเริ่มได้ง่าย ๆ จากการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารบำรุงสายตา
6 เคล็ดลับถนอม "สายตา" สำหรับมนุษย์ติดจอคอมพ์
คนชอบจ้องจอนานๆ ระวังเป็น...โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม
สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ประกอบไปด้วย
1.ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)
พบในบริเวณเนื้อเยื่อตา และพบมากที่สุดบริเวณจุดศูนย์กลางของจอประสาทตา เป็นสาร Antioxidant ที่ช่วยเรื่องการบำรุงสายตา ทั้งยังช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย
พบได้ใน : ผักผลไม้ สีเหลือง และสีเขียวเข้ม เช่น โกจิเบอร์รี่ ผักโขม ถั่วลันเตา บรอกโคลี ข้าวโพด แครอท เป็นต้น
2.สารไลโคปีน (Lycopene)
เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ป้องกันโรคต้อกระจก ป้องกันเยื่อบุตาอักเสบ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา และช่วยบำรุงสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดได้ดี
พบได้ใน : ผัก ผลไม้สีแดง ได้แก่ มะเขือเทศ แตงโม ส้มเนื้อแดง ทับทิม มะละกอ เป็นต้น
3.สารแอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides)
เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาอย่างมาก ช่วยป้องกันต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และโรคทางตาอื่นๆ
พบได้ใน : พืชที่มีสีแดง ม่วง จนถึงน้ำเงิน เช่น บิลเบอร์รี่ แบล็คเคอร์แรนท์ เป็นต้น
4.สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)
ช่วยบำรุงสายตา ขจัดสารพิษตกค้างบริเวณหลอดเลือดและระบบเลือด เสริมสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจน
พบได้ใน : ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ บิลเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เป็นต้น
5.สารเบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene)
ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ช่วยรักษาสภาพปกติของเซลล์เยื่อบุตาขาว กระจกตา
พบได้ใน : ผัก ผลไม้ที่มีสีแดง สีส้ม และสีเหลือง เช่น แครอท มะเขือเทศ พริกหวานสีแดงและเหลือง แคนตาลูป แอพริคอต เป็นต้น
6.วิตามินเอ
วิตามินสำหรับดวงตา มีประโยชน์ต่อสมรรถภาพในการมองเห็น ช่วยให้มองเห็นในที่ที่มีแสงสว่างน้อย และมองเห็นสีสันต่าง ๆ เป็นปกติ
พบได้ใน : พบมากในเนื้อสัตว์ เช่น น้ำมันตับปลา เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นม นอกจากนี้ยังพบในผัก ผลไม้ ที่มีสีส้ม สีเหลือง และเขียวเข้ม เช่น แครอท ผักโขม ข้าวโพด มันฝรั่ง ฟักทอง คะน้า เป็นต้น
7.วิตามินอี
เป็นสารต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่ดี ป้องกันการทำลายเซลล์หรือลดความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ
พบได้ใน : ไขมันจากพืช เมล็ดถั่ว ผักใบเขียว ธัญพืชต่างๆ น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด ถั่วเหลือง หรือจากไขมันสัตว์ เป็นต้น
8.วิตามินบี
ช่วยในการผลิตกรดอะมิโน เสริมสร้างร่างกายที่สึกหรอ ช่วยรักษาสมดุลของระบบต่าง ๆ ซึ่งวิตามินแต่ละชนิด ทั้ง บี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6, บี 7, บี 9, และ บี 12 จะพบในอาหารที่ต่างกันไป
พบได้ใน : เนื้อหมู เมล็ดทานตะวัน ข้าวซ้อมมือ นม เครื่องในสัตว์ ตับ ผักใบเขียว มันฝรั่ง เมล็ดทานตะวัน ถั่วต่าง ๆ เมล็ดงา กล้วย ปลาแซลมอน คะน้า ผักบุ้ง เป็นต้น
9.สารสกัดจากเปลือกสน
เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยชะลอความแก่ และช่วยเร่งการขจัดเม็ดสีที่ตกค้างซึ่งเป็นสาเหตุของกระและฝ้า ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวทำให้กระและฝ้า ดูจางลง
10.สารสกัดจากมะขามป้อม
บำรุงอวัยวะแทบทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงดวงตา ในมะขามป้อมเต็มไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยบำรุงเส้นเลือดฝอยและรักษาทำงานของเซลล์จอประสาทตา ช่วยลดอาการคันและอาการตาแห้งได้
11.สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
ช่วยต่อต้านการสร้างอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นของอิลาสติน
วิธีถนอมสายตา มีหลายวิธี ได้แก่ ...
-ลดความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ ติดฟิล์มลดแสง
-พักสายตาบ่อย ๆ ทุก 20 นาที
-สวมแว่นกันแดดป้องกันรังสียูวี และแสงเข้าตา
-เลือกหนังสือที่พิมพ์จากกระดาษสะท้อนแสงน้อย เพื่อการถนอมดวงตา
- ควรอยู่ในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ ขณะใช้สายตา
-ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
-รับประทานอาหาร วิตามินบำรุงสายตา
อ้างอิง รพ.กรุงเทพ, รพ.ไทยนครินทร์, รพ.รามาธิบดี, Medthai
