ร้านอาหารกึ่งผับ แพร่ “โอมิครอน” ใน 6 จังหวัด “อนุทิน” ฟาดผู้ประกอบการ-ลูกค้า ไร้จิตสำนึก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ล่าสุดอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยกระจายไปแล้ว 54 จังหวัด ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 2,062 คน หนึ่งในปัจจัยการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วนั้น พบว่า คือ คลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ ที่มีการขายแอลกอฮอล์ ซึ่งล่าสุดจากการรวบรวมข้อมูลของทีมข่าว พบว่า มีถึง 6 จังหวัด ที่มีการกระจายของร้านอาหารกึ่งผับแบบนี้

อัปเดต 10 จังหวัด ติดโควิดสูงสุดวันนี้ ชลบุรี พุ่งอันดับหนึ่ง 499 ราย จับตา อุบลฯ ภูเก็ต จ่อทาบ

กรมวิทย์ฯ อัปเดตโอมิครอนไทย พร้อมเปิดผลศึกษาผู้ป่วยในแอฟริกาเกิดภูมิต้านเดลตาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดย 6 จังหวัดที่พบการแพร่ระบาดของคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ ที่ขณะนี้พบมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง  ประกอบด้วย กาฬสินธุ์, อุบลราชธานี,  เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี, นครราชสีมา, กรุงเทพมหานคร และภูเก็ต

โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ เริ่มจากสามีภรรยาที่กลับจากเบลเยียม ในระบบแบบ test & go และมีไปทานข้าวที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในจังหวัด จากนั้นนักดนตรีและผู้ติดเชื้อที่อยู่ในร้านนี้ ยังได้ไปร่วมงานแสดงดนตรีที่หาดแสงจันทร์

ทำให้คลัสเตอร์นี้ มีการติดเชื้อโควิด 19 รวม 258 คน ในจำนวนนี้ มีการยืนยันเบื้องต้นจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าเป็น โอมิครอนแล้ว 195 คน

 

คลัสเตอร์ "เอกมัย 487" ติดโควิดแล้ว 619 คน

ขณะที่คลัสเตอร์กาฬสินธุ์นี้ ยังเชื่อมโยงไป จังหวัดอุบลราชธานี ด้วย เมื่อพบ ว่ามีร้านอาหารกึ่งผับ “เอกมัย 487” เป็นสถานที่แพร่กระจายเชื้อโควิด 19 ซึ่งล่าสุดมีคนติดเชื้อไปแล้ว 619 คน เสี่ยงสูงอีก 1,685 คน  และนายอำเภอเมืองอุบลราชธานี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี กับร้านแห่งนี้แล้ว ข้อหา ฝ่าฝืนประกาศ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ 2558

ชลบุรีติดเชื้ออันดับ 1 ประเทศ 499 คน

ส่วนคลัสเตอร์ที่ลามกระจุยกระจาย จากคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ คือ ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ที่ทำให้ยอดโควิดของจังหวัดแซงหน้ากรุงเทพ มาเป็นผู้ติดเชื้ออันดับ 1 อีกครั้งในวันนี้ โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 499 คน แซงกรุงเทพที่อยู่ที่ 376 คน

สำหรับจุดเสี่ยงในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง  ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีได้ไปตั้งจุดตรวจ ATK มีทั้งหมด 4 แห่ง คือ หน้าตลาดทรีทาวน์ ซอย LK บัวขาว วอล์คกิ้งสตรีท ตรงข้ามสโตนเฮาส์  และพัทยาซอย 6-9 ถนนเลียบชายหาด

 

โคราชประกาศตามหา นทท.เข้า 2 ร้านกึ่งผับ

ขณะเดียวกันคลัสเตอร์พัทยานี้ ยังลุกลามไปจังหวัดนครราชสีมาด้วย เมื่อพบว่า มีผู้เดินทางมาจากพัทยาไปเที่ยวร้านอาหารกึ่งผับ ที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้วันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ประกาศขอให้ผู้ใช้บริการร้านอาหาร PEE 2 และร้าน BURN BAR & BISTRO ริมถนนสุรนารายณ์  ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2564 – 2 มกราคม 2565  กักตัวเอง 14 วัน ตรวจ ATK ด้วยตัวเอง และเฝ้าระวังอาการ หลังตรวจพบนักท่องเที่ยว  2 ร้านดังกล่าวซึ่งอยู่ติดกัน ยืนยันผลติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 5 คน

ข้าวสารพบติดโควิด 6 คนไปเที่ยว คืน 30 ธ.ค.

ส่วนกรณีที่ถนนข้าวสาร ล่าสุดพบคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ ในเทศกาลปีใหม่ เรื่องนี้ นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวพีพีทีวีทางโทรศัพท์ ว่า  เบื้องต้น ผู้ป่วยกลุ่มนี้ เดินทางมาเที่ยวด้วยกัน ในคืนวันที่ 30 ธันวาคม จำนวน 10 คน ซึ่งก่อนเข้าร้าน จะมีการตรวจหาเชื้อก่อน แต่ไม่พบเชื้อ จากนั้น จึงมาทราบภายหลังว่า ติดเชื้อจำนวน 6 คน  ส่วนตัวเชื่อว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ไม่น่าจะติดมาจากสถานประกอบการในถนนข้าวสาร เพราะขณะนี้ ยังไม่มีพนักงานในร้าน ติดเชื้อ ซึ่งทุกร้านในถนนข้าวสาร จะตรวจหาเชื้อทุก 2 วันอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูการสอบสวนโรคของทางสาธารณสุขอีกครั้ง

 

สสจ.ภูเก็ตพบโอมิครอนแล้ว 175 คน

นอกจากนี้ที่จังหวัดภูเก็ต  กรมควบคุมโรคแถลงว่า พบโอมิครอนแล้ว 175 คน ในจำนวนนี้มีการติดเชื้อในประเทศ 17 คน ซึ่งจำนวนหนึ่งถูกพบว่าได้ไปร้านอาหารกึ่งผับ ในซอยบางลา หาดป่าตอง ซึ่งลักษณะในการท่องเที่ยว พบว่า นักท่องเที่ยวหลายราย ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของ สาธารณสุข

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายกู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และผู้ที่เกี่ยวข้อง วันนี้มีการแถลงข่าวระบุว่า ภูเก็ตขณะนี้มีการพบการติดเชื้อจากผู้ป่วยคนไทยมากขึ้น จากที่พบวันละ 30-40 คน ตอนนี้พบมากกว่า 100 คนต่อวันแล้ว ซึ่งวันนี้พบมากถึง 150 คน ส่วนต่างชาติพบวันละ 80 คน โดยโอมิครอนพบแล้ว  167 คน

 

“อนุทิน” ฟาดผู้ประกอบการ-ลูกค้า ไร้จิตสำนึก

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคลัสเตอร์การระบาดร้านอาหารกึ่งผับในหลายจังหวัด ฟาดทั้งผู้ประกอบการ และลูกค้า ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ระบุ ไม่มีจิตสำนึก ทั้งที่ในช่วงที่มีโรคระบาดเยอะ แต่ไม่ระวัง ยังรักความสนุก จนทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ที่ปฏิบัติตามมาตรการ ไม่เคยก่อปัญหา ยอมรับไม่รู้จะไปเอาผิดอย่างไร เพราะเป็นเรื่องจิตสำนึกต่อส่วนรวม

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเห็นใจสถานบันเทิง หรือ ผับบาร์ ที่ไม่สามารถเปิดได้ จึงให้ปรับได้เป็นร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้   แต่ถึงเวลาจริงก็ได้ไม่ได้มีการปรับตามที่พูดไว้ ซึ่งผู้ที่เป็นอนุมัติในพื้นที่นั้นๆ ก็ต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด  ตำรวจในพื้นที่ หากเกิดการแพร่ระบาดคลัสเตอร์ที่ไหนแล้วไม่มีการปฏิบัติตามก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยหลังจากนี้จะต้องมีการเข้มมาตรการเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ แต่กำลังมาดีๆ เทศกาลปีใหม่ควรทำสิ่งดี ๆ สิ่งมงคล แต่บางคนกลับเลือกทำสิ่งที่ไม่เข้าท่า

ทั้งนี้ในวันที่ 7 มกราคมนี้ จะมีการประชุม ศบค. ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่มาตรการที่จะออกมาก็จะต้องมีความสมดุลระหว่างการสุขภาพของคนและเศรษฐกิจที่ต้องดำเนินไปควบคู่กัน

 

ร้านกึ่งผับกลางวันเปิดโล่ง กลางคืนปิดทึบ

ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดข้อมูลความเสี่ยงร้านอาหารกึ่งผับ โดยระบุว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่ะกระจายเชื้อจำนวนมากได้แก่ เป็นสถานที่ปิดทึบ ระบายอากาศไม่ดี ที่นั่งชิดกัน ไม่เว้นระยะห่าง พนักงานไม่สวมหน้ากากอนามัย  มีการส่งเสริมการขาย คนมาใช้บริการไม่สวมหน้ากาอนามัย และมีการพูดคุยเสียงดัง

โดยการไปตรวจที่จังหวัดอุบลราชธานีที่ผ่านมา ก็พบว่า ร้านประเภทนี้ กลางวันเปิดโล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวกจริง แต่พอเวลากลางคืนกลับปิดผ้าใบให้ร้านทึบ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้นายแพทย์โอภาส ยอมรับว่า การพิจารณาเปิดสถานบันเทิงจากเดิมที่จะพิจารณาให้เปิดในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ ต้องชะลอไปก่อน ขอรอดูก่อน 1 เดือน

 

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ