สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยดูจะเริ่มกลับเข้าสู่ช่วง “ขาขึ้น” อีกครั้งแล้ว จากจำนวนผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่ที่กลับมาพุ่งสูง ซึ่งส่วนหนึ่งคาดว่าเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เชื่อกันว่ามีความสามารถในการแพร่เชื้อที่สูง แต่อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ “พฤติกรรมเสี่ยง” ของประชาชนเองที่เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อโควิด-19
ด่วน! สธ.ยกระดับเตือนภัยโควิด จาก 3 เป็น 4 ของดรวมกลุ่ม ชะลอเดินทาง
ยอดพุ่ง! ชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 769 ปอดอักเสบ 4 เปิดสถานที่เสี่ยงให้รีบตรวจ ATK
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมของประชาชนไทยในวัยทำงาน ว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงใดบ้างที่คนไทยมักทำ ซึ่งจะนำไปสู่การติดเชื้อ
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เทศกาลหลังปีใหม่ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น เน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองสุขศึกษาได้ทำการสำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพภาพรวมประเทศ โดยสำรวจกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุ 15-59 ปี จำนวน 119,040 คน ในระหว่างวันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2564 พบว่ากลุ่มวัยทำงานยังมีพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จัดเป็น 5 อันดับ ดังนี้
อันดับ 1 – 27% เมื่อสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง ไม่ได้ตรวจด้วยชุดตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 ด้วยตนเอง (ATK) หรือไปรับบริการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
อันดับ 2 – 21.2% ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลาทั้งเมื่ออยู่ในและนอกบ้าน
อันดับ 3 – 13.4% ไม่ได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ
อันดับ 4 – 8% ไม่ได้เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตรในทุกสถานที่
อันดับ 5 – 6.6% ใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ และใบหน้า ตา จมูก ปาก
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อความไม่ประมาทและร่วมกันรณรงค์สร้างพฤติกรรมป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล เมื่อสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงควรตรวจด้วยชุดตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ด้วยตนเอง (ATK) หรือไปรับบริการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
ควรสวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลาทั้งที่อยู่ในและนอกบ้าน ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตรในทุกสถานที่
หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จําเป็น ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นทุกชนิด ออกจากบ้านเมื่อจําเป็น แยกสำรับเวลารับประทานอาหารกับผู้อื่น ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ห้องน้ำ หรือไอ จาม และรับประทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่
“วิธีการดังกล่าวเป็นการย้ำเตือนตัวเองและทุกคนในครอบครัวทุกกลุ่มวัย ปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการป้องกันการติดโรคโควิด 19 ขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลอย่างเคร่งครัด” ทพ.อาคมกล่าว