วันนี้ 27 ม.ค. 2565 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค, นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะผู้บริหาร ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 1/2565
จริงหรือโอมิครอนตัวปิดเกม โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น?
กทม.เปิดจุด walk in ฉีดวัคซีน“แอสตร้าฯ”ชาวไทย-ต่างชาติ เริ่ม 31 ม.ค.นี้
นพ.ศุภกิจ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 มีมติเห็นชอบ 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นแรก กระทรวงสาธารณสุขจะบริหารจัดการให้โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กินระยะเวลามากว่า 2 ปีแล้ว และลักษณะการระบาดมีทิศทางที่ดีขึ้น ไม่รุนแรง รวมทั้งอยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งเป็นไปตามหลักวิชาการ
“โมเดอร์นา” เริ่มทดสอบวัคซีนบูสเตอร์ สูตรต้าน "โอมิครอน"
ทั้งนี้ อยากให้โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นด้วยตัวเอง โดยจะปล่อยระยะเวลาไปเรื่อยๆและมีการบริหารจัดการให้เป็นโรคประจำถิ่นต่อไป สำหรับโรคประจำถิ่น จะมีลักษณะการระบาดที่ไม่รุนแรง โดยอัตราการเสียชีวิตอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ไปจนถึงต่ำ และมีการติดเชื้อเป็นระยะๆเท่านั้น เช่น หากป่วยแล้วเสียชีวิต จำนวนผู้ป่วย 1,000 คน จะเสียชีวิตเพียง 1 คน ซึ่งจะต้องบริหารจัดการไม่ให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งคน ซึ่งสำหรับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หากได้รับวัคซีนสองเข็มจะถือว่ามีภูมิต้านทานถึง 80% อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่จะผลักดันให้เป็นโรคประจำถิ่น กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง แต่คาดว่าจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้ภายในปีนี้
ประเด็นที่สอง เนื่องจากประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนให้กับคนปกติได้มากขึ้น จึงมีการจัดสถานที่เฉพาะ เรียกว่า “คลินิกวัคซีนผู้ใหญ่” เพราะมีจำนวนวัคซีนผู้ใหญ่เหลืออยู่มาก ซึ่งสำหรับคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่อาจจะมีการรวมเป็นฟังก์ชันเฉพาะของงานในรพ. ประชาชนสามารถวอล์คอินเข้ามาฉีดได้ทุกวัน โดยขณะนี้มีหลายแห่งเริ่มดำเนินการแล้ว แต่ที่มีการออกมติมาอีกครั้ง เนื่องจากเกรงว่าหลายจุดจะมีการปิดตัวลง เมื่อยอดการฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมาย
นอกจากมติข้างต้น ก็มีการรายงานความก้าวหน้าของการให้บริการวัคซีน การออกหนังสือรับรอง รวมรายงานสถานการณ์ประจำวันการเฝ้าระวังสายพันธุ์โอมิครอนให้กับที่ประชุมทราบ ซึ่งขณะนี้ การแพร่ระบาดในประเทศไทยส่วนใหญ่ 90% เป็นสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว ส่วนบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เป็นสายพันธุ์โอไมครอนทั้ง 100%
10 ข้อที่พ่อแม่ควรรู้ ก่อนฉีดไฟเซอร์เด็ก 5-11 ปี มีอะไรบ้าง?
รวมทั้งรับทราบแผนการฉีดวัคซีนเด็ก 5-11 ปี ซึ่งจะมีแนวทางการฉีดสองรูปแบบคือ school based และ hospital based โดยช่วงแรกจะเป็นการฉีดให้กับ hospital based ในเด็กที่มีอาการป่วยเป็นโรคประจำตัวแล้วจึงกระจายเข้าสู่ระบบโรงเรียน พร้อมขอความร่วมมือสำหรับการฉีดวัคซีนผู้ที่ฉีดในสูตร sinovac + astrazeneca ขอความร่วมมือให้เข็มกระตุ้นเป็น astrazeneca อีกหนึ่งเข็ม สำหรับผู้ที่ฉีด sinopharm สองเข็ม ขอให้กระตุ้นด้วย astrazeneca เช่นกัน เพื่อจะได้เป็นไปตามแผนและมีการบริหารจัดการวัคซีนเหมาะสมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป