คนทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนทำให้คนทั่วโลกเจ็บป่วยจากการติดเชื้อมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในช่วงเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 1917-18
การติดเชื้อโอมิครอนทะยานขึ้นสูงสุดในหลายประเทศ โดยในเดือนก.พ. ซึ่งผ่านมาไม่กี่วัน ผู้ติดเชื้อโอมิครอนทั่วโลกยังเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่อการทำงานในหลายประเทศ
กรมควบคุมโรคแนะ 5 วิธีรับมือเชื้อ โอมิครอน แบบไม่ประมาท การ์ดไม่ตก
เดนมาร์กเผย “โอมิครอน BA.2” ติดได้ง่ายกว่า BA.1 ราว 33%
พบโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แล้วใน 57 ประเทศทั่วโลก
ผลกระทบจากการแพร่ระบาดและมาตรการควบคุมทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบทุกประเภท จนเกิดการถกเถียงว่าควรจะมีมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดหรือไม่ ในเมื่อผู้ติดเชื้อไม่มีอาการรุนแรง
ในสหราชอาณาจักร ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าชาวอังกฤษ 1ใน 6 เคยสัมผัสกับเชื้อโอมิครอนนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว ส่วนในเดือนเดนมาร์ก คาดว่า 1 ใน 5 เคยสัมผัสเชื้อไวรัส และในอิสราเอล 1 ใน 9 ของประชากรเป็นผู้เคยสัมผัสเชื้อ
ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐระบุว่าแทบไม่น่าเชื่อว่าคนจำนวนมากติดเชื้อในช่วงเวลาเดียวกัน โดยประเมินว่าชาวอเมริกัน 1 ใน 5 สัมผัสเชื้อโอมิครอนในช่วงจุดสูงสุดในกลางเดือนมกราคม และจำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อถึงกลางเดือนก.พ.
Trevor Bedford นักไวรัสวิทยา ที่ศูนย์วิจัยมะเร็ง Fred Hutch เขียนในทวิตเตอร์ โดยประเมินว่าประมาณ 40% ของประชากรติดเชื้อในช่วง 8 สัปดาห์ แต่ไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดหนักในช่วงต้นศตวรรษที่ผ่านมา มีประมาณ 10% ติดเชื้อในช่วงเวลา 16 สัปดาห์
โอมิครอนระบาดรอบนี้ แตกต่างจากการระบาดโควิดรอบก่อนหน้านี้ ที่มีผู้ติดเชื้อน้อยและตัวเลขติดเชื้อพุ่งขึ้นในแต่ละประเทศต่างกันและเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่การระบาดรอบนี้จากโอมิครอนเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก แม้ว่าขณะนี้ในประเทศเอเชียยังไม่พบการแพร่ระบาดใหญ่
ด้าน Brenda Crabtree ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด ทวิตข้อความว่า "ถ้าคุณไม่มีเพื่อนที่ติดเชื้อในตอนนี้ ต่อไปคุณยังไม่ต้องไปพบใคร"
ในรอบการระบาดของโอมิครอน ขณะนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อแล้วเจ็บป่วย คาดว่า 80-90% ของคนติดเชื้อไม่มีอาการ เมื่อเทียบกับคนที่ติดสายพันธุ์เดลตาแล้วไม่แสดงอาการ 40% นอกจากนี้ ผู้ติดเชื้อโอมิคอนแสดงอาการฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยเร็วกว่า
จากอาการของโอมิครอนนี้ ทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนถึงกรณีที่มีบางประเทศจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด โดยระบุว่ามีความกังวลกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในบางประเทศ ที่เห็นว่าการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น และการเจ็บป่วยจากโอมิครอนไม่รุนแรง ทำให้ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเข้มงวด
"ไม่อาจหนีความจริงไปได้ ที่ว่า ยิ่งระบาดมากก็หมายถึงการเจ็บป่วยมาก" ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวเตือนในการแถลงข่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมา
