ดัชนีหลักทรัพย์ ปิดตลาดลดลง 4.23 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 1,652.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 81,426.12 ล้านบาท โดยดัชนีปรับลดลงตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด และเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน มีจุดสูงสุดที่ 1,655.42 จุด และต่ำสุด 1,641.86 จุด
นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิ 1,293.76 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 882.89 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 1,095.29 ล้านบาทและบัญชีโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 1,081.36 ล้านบาท
จริงหรือโอมิครอนตัวปิดเกม โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น?
สธ.ยังเตือนภัยระดับ 4 พบติดเชื้อโควิด-19 แนวโน้มเพิ่มขึ้น
“บิ๊กตู่” เปิดเพลง “อย่ายอมแพ้”กลางวงประชุม ศบศ. ลั่น ผมไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว
ตลาดหุ้นไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ขณะที่ตลาดที่ยังได้รับแรงกดดันจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 25-26 โดยรอดูเฟดจะว่าจะมีท่าทีย่างไร ต่อการดำเนินนโยบายการเงิน
นักวิเคราะห์มองว่าการประชุมเฟดในครั้งแรกของปี น่าจะยังไม่มีการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น แต่จะเริ่มปรับดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.
บริษัรหลักทรัพย์ เอเซียพลัส กล่าวล่ ว่ามีปัจจัยใหม่ที่เข้ามากดดันตลาด คือ ปัจจัยการเมือง ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในขณะที่สถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น
หุ้นไทยน่าจะประคองตัวต่อไปได้ เนื่องจากมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเดิม ๆ ที่เน้นปันผล คาดว่าSET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1650 – 1665 จุด
ยื่นภาษีของปี 2564 ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91 และภาษีทุกประเภท ผ่าน E-FILING
"เช็ก 5 อาการโอมิครอน" ที่แพทย์ตรวจพบในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด
นอกจากแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ยังมีได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะความกังวลว่าจะเกิดการยุบสภา ซึ่งนักลงทุนต่างชาติมักจะให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ สะท้อนได้จากข้อมูลในอดีตก่อนการยุบสภา 1 เดือน ค่าเงินบาทมักจะอ่อนค่าทุกครั้งเฉลี่ยราว 1.1% และอ่อนค่าต่ออีก 1 เดือนหลังยุบสภาอีก 0.5%