ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดลดลง 12.19 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 1,640.54 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 76,905.45 ล้านบาท โดยดัชนีส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,654.99 จุด และต่ำสุด 1,639.14 จุด
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมากที่สุด 2,205.75 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,243.11 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 2,451.80 ล้านบาท และบัญชีโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 997.06 ล้านบาท
เงินบาทซื้อขายในกรอบ 32.75-33.35 รอลุ้นประชุมเฟด 25-26 ม.ค.
ไขปริศนา ทำไมตลาดหุ้น-คริปโทฯ กลายเป็นคู่หู "มาด้วยกัน ไปด้วยกัน"
หุ้นสัปดาห์หน้าแกว่ง รอประชุมเฟด 25-26 ม.ค. บาทแข็งค่าจากเงินไหลเข้า
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในโหมด Wait & See โดยความสนใจหลักยังคงอยู่ที่การประชุมเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค.65 ซึ่งถูกคาดหมายว่า มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีนี้
สำหรับสถานการณ์บ้านเรายังมีความได้เปรียบตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว ในเชิงเปรียบเทียบทั้งแนวโน้มกำไรยังมีช่องว่างให้ฟื้นตัวเด่น, ราคา Laggard และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ หนุน Valuation ของตลาดหุ้นไทย
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เขียนในเฟซบุ๊กส่วนตัว มองว่าปีนี้จะผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินระดับโลก โดยแนะนำให้จับตาการประชุมใหญ่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่ง 8 วันประชุมที่สำคัญสุดในปี 2565 "จดวันที่ไว้เลย พลาดไม่ได้!!"
เช็กที่นี่ ! รวมจุดฉีดวัคซีนโควิด ทั้งแบบลงทะเบียน และ Walk in
ทุกปี คณะกรรมการนโยนบายการเงินสหรัฐ FOMC จะมีการประชุมเพื่อตัดสินใจว่าจะกำหนดนโยบายการเงินว่าจะจัดการกับ (1) ดอกเบี้ย และ (2) สภาพคล่องอย่างไร ทั้งหมด 8 ครั้ง ทุกๆ 6-7 สัปดาห์โดยปกติแล้ว การประชุมดังกล่าว จะไม่ค่อยมีสีสัน เป็นไปตามคาด บางคนบอกว่า "น่าเบื่อเล็กน้อย"
แต่ปีนี้ จะไม่เหมือนทุกปี จะเป็นปีที่เราพลาดไม่ได้ เพราะทุกประชุมของปีนี้ จะต้องลุ้นเสมอว่า เฟดจะประเมินเศรษฐกิจเปลี่ยนไปหรือไม่ เฟดจะทำอะไรต่อไป เฟดจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมา Surprise ตลาดเช่นครั้งนี้ มีกำหนดประชุมนัดแรกของปี วันที่ 25-26 มกราคม
"ก่อนประชุม ตลาดก็เต็มไปด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เรียบร้อย คาดเดาว่าเฟด จะขึ้นดอกเบี้ยกี่ครั้งปีนี้ จากเดิม 3 ครั้ง จะเพิ่มไปกี่ครั้ง แสดงความคิดเห็นว่า ตอนนี้เศรษฐกิจอยู่ในจุดไหน นโยบายการเงิน behind the curve แล้วหรือยัง"
ส่วนนักลงทุน ก็เร่งปรับตัว หนีตาย คอยลุ้นว่า ใครจะถูกลุ้นว่า เฟดจะเห็นใจหรือไม่ และหลังประชุม ตลาดก็จะมาตัดสินใจว่า เป็นไปตามคาดหรือไม่ ต้องปรับตัวต่อหรือไม่ เพราะฉะนั้น คงต้องจดไว้ว่าประชุมวันไหน จะได้พลาดไม่ได้ เพราะจากที่ฟังมาจากผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป ECB บอกว่า ปีนี้ ECB ยังรอดู และไม่เร่งทำอะไรก่อน ให้สหรัฐซึ่งวัฏจักรเศรษฐกิจได้นำหน้าทุกคนไปแล้ว เดินเครื่องจัดการเรื่องดอกเบี้ย สภาพคล่องไปก่อน
หมายความว่า มีธนาคารกลางหลักของโลก ที่จะมาเขย่าตลาดปีนี้ ก็เฟดนี่แหละ ซึ่งในการประชุม 8 ครั้งนี้ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ Ben Bernanke ได้ออกมาแถลงและให้สัมภาษณ์ 4 ครั้ง (ครั้งเว้นครั้ง) เริ่มในปี 2554 จนกระทั่งในปี 2562 ผู้ว่าการธนาคารกลางคนปัจจุบันได้เริ่มออกมาแถลงทุกครั้ง หลังประชุมเสร็จเพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่า "ในใจของผู้ว่าการและกรรมการคิดอะไรอยู่ กังวลใจเรื่องอะไร มองอนาคตอย่างไร" ก่อนที่จะออกรายงานการประชุม ประมาณ 3 สัปดาห์ให้หลัง เพื่อมาย้ำสิ่งที่เฟดต้องการสื่อสาร และเตรียมตลาดสำหรับการประชุมครั้งต่อไป
เช็กที่นี่!จุดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 3 ไฟเซอร์ 24 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ ใน 8 ครั้ง จะมี 4 ครั้ง คือ ครั้งเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม (ที่เขาใส่ดอกจันทร์ไว้ในตาราง) ที่มีความสำคัญมากกว่าครั้งอื่น เพราะเป็นเดือนที่มีข้อมูลเศรษฐกิจชัดขึ้น และเฟดจะปรับข้อมูลการประมาณการ และให้แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายในใจกรรมการ (dot plot) ประกอบ คนเลยบอกกันว่า ถ้าไม่มีอะไรที่รีบร้อน เฟดจะทำนโยบายใหญ่ๆ ปรับทิศทาง ส่งสัญญาณดังๆ ในช่วง 4 ครั้งดังกล่าว
"ขอให้ติดตามให้ดีครับ เขาบอกกันว่า ปีนี้ ถนนมันคดเคี้ยว - A Road Full of Twists and Turns ถ้าไม่ระวัง ก็จะลำบาก ซึ่งโค้งที่สำคัญสุดในระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก ก็คง 8 ประชุมนี่แหละครับ"
ครม.อนุมัติ คนละครึ่งเฟส 4 คนละ 1,200 บาท กดยืนยันตัวตน-เริ่มใช้สิทธิ 1 ก.พ.นี้
