TU โชว์กำไรปี 64 ทุบสถิติสูงสุด 8,013 ล้านบาท จ่อปันผล 0.50 บาท/หุ้น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บมจ.ไทยยูเนี่ยน หรือ TU เผยผลดำเนินงานปี 2564 เพิ่มขึ้น 28% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากกลุ่มธุรกิจที่เติบโต ทั้งอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็น รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง

“GULF” กำไรสุทธิปี 64 ทะลุ 8,812 ล้านบาท พุ่ง 96.8% ปันผล 0.44 บาท/หุ้น

ปตท.กำไรสุทธิ 1.08 แสนล้าน จากกลุ่มปิโตร-กำไรสต๊อก 4.6 หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2565 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ชื่อหลักทรัพย์ TU รายงานผลประกอบการประจำปี 2564 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 มีในไตรมาส 4 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2563 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิในปี 2564 เท่ากับ 8,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปี 2563 โดยมี EBITDA จำนวน 14,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2% จากปี2563 ที่จำนวน 12,959 ล้านบาท

โดย TU มียอดขายในไตรมาส 4/2564 อยู่ที่ 38.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1% เมื่อเทียบจากปี 2563 ปัจจัยหลักจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นฟื้นตัวอยู่ที่ 21.0% ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เติบโต 27.2% และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 4.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  

ขณะที่บริษัทฯ มียอดขายในปี 2564 รวม 141,018 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบจากปี 2563 สาเหตุหลักจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นเติบโต 17.8% ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เติบโต 17.9% กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 922 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายธุรกิจอาหารแปรรูปลดลง 6% เข้าสู่ระดับปกติ เนื่องจากปี 2563 มีการกักตุนสินค้าในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19

 

ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นในปี 2564 เท่ากับ 25,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากำไรขึ้นต้น อยู่ที่ 18.2% เนื่องจากกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง แม้กำไรขั้นต้นจะลดลงตามยอดขาย ส่วนกลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็น มีกำไรขึ้นต้นและอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้น จากการฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหาร รวมถึงกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น

สำหรับค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร ในปี 2564 อยู่ที่ 1,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายทางการตลาดปรับเพิ่มขึ้นทั้งในธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่ของบริษัท

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ บันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 269 ล้านบาท เทียบกับปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 527 ล้านบาท เป็นผลดีจากธุรกิจ Red Lobster มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลง โดยในปี 2564 คิดเป็นมูลค่า 815 ล้านบาท รวมถึงบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจ Avanti ลดลงจากปีก่อน

ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวมทั้งหมดอยู่ที่ 166,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบจากปี 2563 และมีหนี้สินรวม 104,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% เมื่อเทียบจากปี 2563

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับปันผลวันที่ 10 มี.ค. 2565 (XD 9 มี.ค.) และจ่ายปันผลวันที่ 20 เม.ย. 2565

 

ราคาหุ้น TU ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้ ( 23 ก.พ.65 ) ลดลง 0.20 บาท หรือ 0.97% ปิดที่ 20.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 238 ล้านบาท

 

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ