
ทำไมบิตคอยน์วิ่ง "ขึ้น-ลง" ตามตลาดหุ้น เมื่อนักลงทุนสถาบันร่วมวงคริปโท
เผยแพร่
บิตคอยน์ราคาร่วงลงอย่างหนัก หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติของคริปโทฯ แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง เป็นไปอย่างมีแบบแผนไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ่้น
ราคาบิตคอยน์ คริปโทฯที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก ร่วงลงอย่างหนักกว่า 50% จากระดับสูงสุดในปลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะขึ้น-ลงหวือหวาตามภาวะตลาด แต่การเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์ รวมถึงคริปโทฯอื่น ๆ มีแบบแผน เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้น
แบบแผนการเคลื่อนไหวของคริปโทฯกับตลาดที่เป็นไปในทางเดียวกัน เกิดขึ้นมาสักระยะแล้ว โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างนักลงทุนคริปโทฯ จากเดิมที่มีแต่นักลงทุนทั่วไป หรือ เป็นบุคคลทั่วไป ทั้งรายเล็กรายใหญ่ แต่ปรากฏว่ามีนักลงทุนสถาบันเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
บิตคอยน์ร่วงไม่หยุด ยากจะฟื้นในเร็ววัน หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ถอนคิวอี
คริปโทฯดิ่งตามตลาดหุ้น นักลงทุนแห่เทขายสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่วงลงอย่างหนัก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยบิตคอยน์ คริปโทฯที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดของโลก ร่วงไปทำสถิติในรอบหลายเดือน ที่ 31,075.70 ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาดเมื่อวันจันทร์ ลดลง 10% จากวันอาทิตย์
ราคาบิตคอยน์ ร่วงลง 54% จากระดับสูงสึดในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ทำไว้ที่ระดับ 67,802 ดอลลาร์
Ethereum คริปโทฯที่มีมูลค่าตลาดใหญ่อันดับสอง ร่วงลงไปอยู่ที่ 2,286.10 ดอลลาร์ ลดลงราว ๆ 10% จากราคาเมื่อวันอาทิตย์
บิตคอยน์และคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ ขึ้นชื่อว่าราคาเคลื่อนไหวสวิงมาก ๆ เพราะว่านักลงทุนที่มีบทบาทมาหลายปีก่อนหน้านั้นเป็นนักลงทุนรายบุคคล ทั้งรายเล็ก-รายใหญ่ แต่ในช่วงหลัง แตั้งแต่ปีที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบัน เช่น พวกเฮดจ์ฟันด์ และบรรดาผู้บริหารกองทุน เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้น
เมื่อนักลงทุนสถาบันเข้ามาในตลาดคริปโทฯ ทำให้ตลาดคริปโทฯเริ่มการเคลื่อนไหวคล้าย ๆ กับตลา่ดสินทรัพย์ทั่ว ๆ ไปมากขึ้น เนื่องจากบรรดานักลงทุนสถาบันมีหลักการที่ใช้ในการลงทุนเหมือนกัน ซึ่งบรรดานักลงทุนสถาบันซื้อหรือลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี โดยจัดเป็นประเภท "สินทรัพย์เสี่ยง" เช่นเดียวกับหุ้นหรือสินทรัพย์อื่น เพียงแต่มีระดับความเสี่ยงแตกต่างกันไป
นักลงทุนสถาบันส่วนมากมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทฯ มีลักษณะคล้ายกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ขยับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% มากที่สุดในคราวเดียวตั้งแต่ปี 2000 เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และถอนวงเงินคิวอี
ดัชนีแนสแด็ก ร่วงลงหนักแต่ำสุดในรอบหนึ่งปี โดยร่วงล26% ตั้งแต่ต้นปี
ราคาคริปโทฯร่วงลงหนัก ไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้น โดยมูลค่าตลาดร่วงลงหนักถึง 1.55 แสนล้านดอลลาร์ ไปอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline