“การบินไทย” ไตรมาส 1 ขาดทุนลดลง 73% ที่ 3,243 ล้านบาท


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บมจ.การบินไทย หรือ THAI ไตรมาส 1 ขาดทุนลดลง 70% ผลจากการขนส่งสินค้า และผู้โดยสารมากขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายโควิดทั่วโลก เตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบินรองรับ

"การบินไทย" ปี64 พลิกมีกำไร 55,113 ล้านบาท จ่อปิดดีลสินเชื่อใหม่ 25,000 ล้านบาท

“การบินไทย” แจ้งพ้นรัฐวิสาหกิจ หลัง ก.คลัง ขายหุ้นออก 3.17 %

โควิดวันนี้ (17พ.ค.65) ยอดติดเชื้อลดลงไม่ถึง 5 พันราย

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อหลักทรัพย์ THAI ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ จำนวน 3,243 ล้านบาทาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 8,962 ล้านบาท หรือ 73.4% และมีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 11,181 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 6,797 ล้านบาท หรือ 155%

โดยเนื่องจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าเพิ่มขึ้น 6,719 ล้านบาท หรือ 255.7% มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 14,348 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 2,967 ล้านบาท หรือ 26.1% 

จากปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ขาดทุนจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 3,167 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปีก่อน 3,830 ล้านบาท หรือ 54.7%

เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกขยายตัว 2.2% แต่คาดทั้งปีโตเหลือ 2.5 - 3.5%

โดยมี EBITDA เป็นลบ จำนวน 354 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 156 ล้านบาท EBITDA Margin เท่ากับ -3.2% เปรียบเทียบกับปีก่อนที่เท่ากับ -11.6%

 

สำหรับไตรมาส 1/2565  มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 179.8% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น 426.1% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ย 32.5% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 17.3% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวม 1.02 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 142.9%

ด้านการขนส่งสินค้ามีปริมาณการผลิตด้านพัสดุภัณฑ์สูงกว่าปีก่อน 207.8% ปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์สูงกว่าปีก่อน 128.3% อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์เฉลี่ยเท่ากับ 82.2% ขณะที่ปีก่อนเฉลี่ยเท่ากับ 110.8%

 

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 162,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 1,204 ล้านบาท และมีหนี้สินรวมมีจำนวน 236,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4,439 ล้านบาท โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยติดลบจำนวน 74,486 ล้านบาท ติดลบเพิ่มขึ้นจำนวน 3,235 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย

 

โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ต่อเนื่อง 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 2/2565 ปริมาณความต้องการเดินทางของผู้โดยสารมีการเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลจากรัฐบาลนำมาตรการ Test and Go กลับมาใช้ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารรวมเฉลี่ยของบริษัทฯ และสายการบินไทยสมายล์ในช่วง 10 วันแรกของเดือนพฤษภาคม 2565 เปรียบเทียบกับเดือนตุลาคม 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 10,238 และ 10,870 คนต่อวันจาก 4,929 และ 269 คนต่อวัน สำหรับเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศตามลำดับ

ขณะที่ปริมาณการขนส่งสินค้าเฉลี่ยต่อวันของบริษัทฯ กลับไปอยู่ในระดับร้อยละ 50 ของปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 

ทั้งนี้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2565 เป็นต้นมา การบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ปรับเพิ่มความถี่เที่ยวบินไป-กลับในเส้นทางต่าง ๆ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางของผู้โดยสารทั่วโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วอันเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกทยอยยกเลิก หรือผ่อนคลายมาตรการควบคุมและจำกัดการเดินทางเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันในส่วนของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อเดินทางเข้าประเทศสำหรับผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4-5 หลังจากเดินทางมาถึงสำหรับผู้โดยสารที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับแต่ยังไม่ครบตามเกณฑ์ ดังมีรายละเอียดเส้นทางบินที่มีการปรับเพิ่มความถี่และเปิดให้บริการใหม่ดังนี้

 


สรุปเหรียญ ซีเกมส์ 2021 ล่าสุด ประจำวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. 65
โปรแกรมถ่ายทอดสดซีเกมส์ 2021 นักกีฬาไทย ประจำวันอังคารที่ 17 พ.ค. 65

 

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ