เอกชนหนีดอกเบี้ยขาขึ้น! เร่งออกหุ้นกู้ล็อกต้นทุน คาดแตะ 1.2 ล้านล้านบาท


โดย PPTV Online

เผยแพร่




มูลค่าการออกหุ้นกู้เอกชนปี 2565 มีแนวโน้มขยับขึ้น เนื่องจากภาคธุรกิจเร่งออกหุ้นกู้ระยะยาว เพื่อล็อกต้นทุนรับดอกเบี้ยขาขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 1.10-1.20 ล้านล้านบาท

เจาะลึกธีมการลงทุนครึ่งหลังปี 2565 หุ้นไทยกลุ่มไหนฟื้นตัว

ราคาทองวันนี้ พุ่ง 400 บาท ปรากฏการณ์แปลก "ทอง-ดอลลาร์-พันธบัตร"ขึ้น

การคุมเข้มนโยบายการเงิน เพื่อสกัดแรงกดดันเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และธนาคารกลางชั้นนำอื่น  ๆ ในโซนตะวันตกและเอเชีย (ยกเว้น จีนและญี่ปุ่น) เริ่มมีจังหวะใกล้กันมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 โดยธนาคารกลางที่มีแนวโน้มเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามมาในช่วงไตรมาสที่ 3/2565 ได้แก่ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอินโดนีเซีย รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2565 สะท้อนว่า เสียงข้างน้อยของสมาชิก กนง. 3 ใน 7 คน มองว่า ควรมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพราะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวและความเสี่ยงเงินเฟ้อชัดเจนขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การประชุม กนง. วันที่ 10 ส.ค. 2565 มีความเป็นไปได้ที่ กนง.จะพิจารณาเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในรอบการประชุมที่เหลือของปีนี้ และปีหน้า เนื่องจากแม้จะคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยน่าจะแตะจุดสูงสุดในไตรมาสที่ 3/2565 แต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่กรอบ 1-3% ซึ่งเป็นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของไทย 

ขณะที่ต้นทุนทางการเงินของไทยมีแนวโน้มทรงตัวสูง ประเมินจากสถานการณ์ตลาดพันธบัตรไทยตั้งแต่ต้นปี 2565 แม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะอยู่ที่ 0.50% ตามเดิม แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยตั้งแต่อายุ 3 ปีขึ้นไป ทยอยปรับตัวสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 100 basis points หรือกว่า 1.00% ตามการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และปริมาณพันธบัตรรัฐบาลไทยที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง

แม้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรในระดับปัจจุบันจะซึมซับความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไปบางส่วนแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า อาจเห็นการขยับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในบางช่วงอายุ โดยเฉพาะช่วงอายุต่ำกว่า 2 ปี เพิ่มได้อีก เพื่อตอบรับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย โดยคาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 2 ปี จะขยับสูงขึ้นในระดับไม่ต่ำกว่า 1.80% ในช่วงสิ้นปี 2565 จากระดับ 1.62% ณ วันที่ 10 มิ.ย. 2565

 

อย่างไรก็ตาม Credit Spread ของหุ้นกู้เอกชน (ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้ภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นจากพันธบัตรรัฐบาล) ได้ทยอยปรับตัวลงมา และเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยของไทยกลับเป็นทิศทางขาขึ้น คาดว่าจะหนุนให้บริษัทเอกชนเข้ามาระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2565 เพื่อทดแทนรุ่นเก่าที่หมดอายุแล้วและเพื่อการลงทุนขยายกิจการ 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าการออกหุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวในปี 2565 จะอยู่ที่กรอบประมาณ 1.10-1.20 ล้านล้านบาท นับเป็นยอดการออกหุ้นกู้ที่สูงกว่าระดับ 1 ล้านล้านบาทติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องจากที่มีมูลค่าการออกทั้งหมด 1.02 ล้านล้านบาทในปี 2564

ประเด็นที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คือ หุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวที่กำลังจะทยอยครบกำหนดอีกประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี 2565 ไปจนถึงปี 2567 แบ่งเป็น ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี 2565 และอีกประมาณ 6.2 แสนล้านบาท และ 7.1 แสนล้านบาทในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ โดยกลุ่มธุรกิจที่ควรจะต้องเตรียมวางแผนรับมือต้นทุนทางการเงินในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า รับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ต้นทุนการออกหุ้นกู้รุ่นใหม่ที่จะปรับสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม ประกอบด้วย บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ไฟแนนซ์ (อาทิ บริษัทลีสซิ่งและกลุ่มนอนแบงก์) พลังงาน ไอซีที และการพาณิชย์ ตามลำดับ

 

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ