“สิงห์ เอสเตท” Q1/65 ขาดทุน 126 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายพุ่ง หลังซื้อโรงแรมในอังกฤษ
ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2565 สิงห์ เอสเตท โต 1.34 หมื่นล้าน
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2014 ปัจจุบันมีโครงสร้างธุรกิจแบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ประกอบด้วย ธุรกิจพักอาศัย ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสำนักงานให้เช่าและพื้นที่ค้าปลีก และล่าสุดธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน
โดยกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานของสิงห์ เอสเตท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
- ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ครอบคลุมธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจบริการด้านวิศวกรรม และธุรกิจบริการ รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ
- ธุรกิจโรงไฟฟ้า ร่วมทุนเพื่อดำเนินงานโรงไฟฟ้า จำนวน 3 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวมกว่า 400 เมกะวัตต์ ซึ่งมีสัญญาซื้อขายกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ราว 70% เป็นเวลา 25 ปี โดยจะรับรู้ผลการดำเนินงานของธุรกิจผ่านส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้า ส่วนกำลังไฟที่เหลือจะถูกใช้ในนิคมอุตสาหกรรม
- นิคมอุตสาหกรรม สร้างนิคมอุตสาหกรรมที่สร้างคุณที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า ชุมชน สังคม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร S กล่าวต่อว่า บริษัทฯ วางแผนขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดภายใน 6 ปี มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมรับรายได้จากทรัพย์สิน (Recurring income) อีกปีละกว่า 150 ล้านบาท และในปี 2022 นี้ ตั้งเป้าขายที่ 15% ของพื้นที่ทั้งหมด คิดเป็นพื้นที่ 149 ไร่ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้เตรียมพร้อมรับรู้รายได้จากการขายให้โรงไฟฟ้า บี.กริม เพาเวอร์ อ่างทอง 2 และ 3 จำนวน 78 ไร่ ภายในไตรมาส 3 ปี 2022 นี้
เงินบาทสัปดาห์นี้แนวโน้มอ่อนค่า จากเงินไหลออกรับเฟดขึ้นดอกเบี้ย
"ดอกเบี้ยขาขึ้น" จุดชนวนระเบิด "หนี้ครัวเรือน" และ วัฏจักรเศรษฐกิจขาลงที่ยาวนาน
สำหรับนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมอาหารและธุรกิจเกี่ยวเนื่องบนพื้นที่โครงการ 1,776 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย กม.63 ต. ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ห่างจากสนามบินและท่าเรือขนส่ง ระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง
ทั้งนี้ มีโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 3 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวมกว่า 400 เมกะวัตต์ พร้อมระบบจ่ายไฟฟ้า 22 กิโลโวลต์ และ 115 กิโลโวลต์ รองรับผู้ประกอบการที่มีความต้องการไฟฟ้าในปริมาณมาก และมีเสถียรภาพสูง รวมถึงสาธารณูปโภคอื่น ๆ เช่น น้ำประปา ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานทางเลือก พร้อมทั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคม ระบบ 5G และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ครอบคลุมทุกพื้นที่โครงการ
“อ่างทองเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในใจกลางห่วงโซ่อุปทานอาหาร และวัตถุดิบ เป็นจุดเชื่อมต่อจากภาคเหนือ มายังภาคกลาง และกระจายลงไปจุดต่าง ๆ ที่สำคัญภาคกลางเป็นแหล่งผลิตข้าว นม และสัตว์ปลีก อีกทั้งมีสิ่งสนับสนุนด้านการขนส่ง เพราะฉะนั้นจุดเชื่อมต่อกระจายสินค้า อ่างทองถืออยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่จะรับ และกระจายสินค้าได้ ถือเป็นต้นทุนของผู้ผลิต เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องมองหาทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งอ่างทองถือว่ามีความสะดวก ทั้งการเดินทางบก รถไฟ ทางน้ำ (แม่น้ำ) หรือ ท่าอากาศยาน รวมถึงสิ่งแวดล้อยโดยรอบที่จะเอื้อให้คนที่มาอยู่ในนิคมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโรงพยาบาล โรงเรียน หรือศูนย์การค้า” นางฐิติมา กล่าว
โดยแบ่งเป็นพื้นที่โครงการทั้งหมด 1,776 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย 993 ไร่ พื้นที่พาณิชยกรรมพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 34 ไร่ พื้นที่สีเขียว 148 ไร่ ระบบสาธารณูปโภค 214 ไร่ อ่างเก็บน้ำ 384 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำปริมาณ 6.12 ล้าน ลูกบาศก์เมตร โดยพื้นที่อุตสาหกรรมเบา 393 ไร่ถูกจัดโซนอยู่บริเวณรอบโครงการ เพื่อความคล่องตัวของแต่ละประเภทธุรกิจ พื้นที่อุตสาหกรรมอาหารและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 600 ไร่ ถูกจัดโซนพื้นที่เพื่อให้ใกล้กับแหล่งพลังงานไอน้ำเพื่อประหยัดต้นทุนในการใช้พลังงาน
ราคาน้ำมันโลก แนวโน้มปรับลง จากภาวะเศรษฐกิจชะลอเหตุเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
มหาเศรษฐีเจ้าของ “เรย์แบน” เสียชีวิตแล้วในวัย 87 ปี