จับตา 3 ประเด็นสำคัญ เลือกตั้ง 2566 กระทบทิศทางตลาดหุ้น


โดย ธีรวัฒน์ หวังธิติธีรกุล

เผยแพร่




เตรียมจับตาทิศทางตลาดหุ้นไทย หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร์ โดยจะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์ คาดเวลานานหลายเดือนกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โบรกฯ ประเมิน 3 ประเด็นสำคัญหลังจากนี้ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้น

ด่วน! โปรดเกล้าฯพ.ร.ฎ.ยุบสภา แล้ว

ส่องวาระ ครม. รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หลังประกาศ "ยุบสภา"

กรณีพระราชกฤษฎีกาให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร์ เมื่อ 20 มี.ค.66 ซึ่งเป็นการยุบสภาฯ ก่อนหมดวาระเพียงแค่ 3 วัน ซึ่งหลังจากนี้ทุกภาคส่วนขององค์กรทางการเมือง จะเข้าสู่โหมดของการเตรียมเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์แบบ

โดยข้อกำหนดตามกฎหมาย กำหนดให้ต้องจัดการเลือกตั้งหลังยุบสภาแล้วไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน หากกำหนดให้วันเลือกตั้งต้องเป็นวันอาทิตย์ ก็จะมีตัวเลือกเพียง 2 วัน คือ วันที่ 7 พ.ค. 66 หรือ วันที่ 14 พ.ค.66

จากนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ได้ไม่น้อยกว่า 95% ภายใน 60 วัน หากใช้เวลาเต็มก็น่าจะเปิดประชุมสภาฯ ครั้งแรกได้ในช่วงกลางเดือน ก.ค.66

ทั้งนี้เมื่อเปิดสภาแล้ว จะต้องเลือกประธานสภา ผู้แทนราษฎร์ กระบวนการถัดไปก็จะให้รัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎร์และวุฒิสภา ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากในบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคเสนอขึ้นไปเป็นตัวเลือก  ซึ่งเมื่อเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จ และจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงดำเนินกระบวนการต่าง ๆ จนรัฐบาลใหม่สามารถเริ่มทำงานได้ ก็จะใช้เวลาช่วงยาวไปจึนถึงเดือน ส.ค.66

บล.เอเซียพลัส ระบุว่า การเลือกตั้ง 2566 มีประเด็นที่ต้องติดตาม เนื่องจากจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย ได้แก่

 • แนวนโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ เฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจ ว่าจะมีผลดี หรือผลเสีย ต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน มีการพูดถึงแนวทางในการพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างไร เช่น แนวคิดเรื่องการจัดเก็บภาษี จากการลงทุนใน ตลาดหุ้น หรือ การนำ LTF กลับมา หรือไม่อย่างไร เป็นต้น

• ผลการเลือกตั้ง ภายใต้กติกาการเลือกตั้งใหม่ที่ใช้บัตร 2 ใบ เชื่อว่าพรรคเล็กจะมีโอกาสชนะน้อยลง โดยในส่วนของ ปาร์ตี้ลิสต์ ส.ส. 1 คน พรรคต้องมีคะแนนสนับสนุนประมาณ 3.5 แสนคะแนน ส่วนพรรคใหญ่ ประเมินจากสถานการณ์ก็ดูไม่ง่าย เนื่องจากที่ผ่านมามีการย้ายพรรคของ ส.ส. เป็นจำนวนมาก และพรรคใหญ่บางส่วนก็แตกออกมาเป็นพรรคขนาดกลาง-เล็ก ด้วยสภาพแวดล้อมดังกล่าว ทำให้การคาดหมายถึงผลการเลือกตั้ง รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลทำได้ยาก ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

• จากกรอบเวลาที่จะได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ คาดเป็นช่วงกลางเดือน ส.ค.66 ซึ่งใกล้หมดปีงบประมาณ 2566 และมีผลต่อกระบวนการจัดทำงบประมาณปี 2567 ทำให้ยังต้องใช้โครงของงบประมาณปี 2566 ไปก่อน ซึ่งอาจทำให้โครงากรลงทุนใหม่ ๆ ต้องชะลอออกไประยะเวลาหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ในมุมตลาดหุ้นคาด บล.เอเซียพลัส ประเมินว่ามีหลายกลุ่มที่ได้กระแสเชิงบวกจากนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรคการเมือง ส่วนใหญ่ยังคงเน้นการช่วยเหลือปากท้องประชาชนเป็นหลัก ดีต่อกลุ่ม COMM, FIN, BANK, MEDIA, FOOD และกลุ่มอื่น ๆ ได้กระแสเลือกตั้งเฉพาะบางพรรค รวมถึงความคาดหวังการลงทุนเพิ่มเติม ICT, HELTH, AGRI, CONMAT, CONS

คอนเทนต์แนะนำ
ปฏิทินวันหยุดเมษายน 2566 หยุดสงกรานต์-ราชการ-หยุดยาวกี่วัน เช็กที่นี่!
ออมเงินให้บุตรหลาน เดือนละ 300 เดือนถัดไปรับเงินสมทบเพิ่ม 150 บาท
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ