ถอดสูตร Interview สัมภาษณ์พิเศษ นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เคล็ดลับการสร้างแรงบันดาลใจที่อยากเห็นคนไทยสุขภาพดี และการพาประเทศไทยสู่ ธุรกิจ Wellness Hub
ถอดสูตร LINE BK ภายใต้โจทย์ ‘โอนเงินง่าย’ เหมือนส่งสติกเกอร์
มุมมองเศรษฐา ทวีสิน คนไทยมีบ้านเป็นของตัวเองยากขึ้น?
แรงบันดาลใจจากครอบครัว สู่การผลักดันให้คนไทยสุขภาพดี
ในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งยังรู้ตัวตนที่แท้จริงของตนเองว่า ต้องการเดินบนเส้นทางใด แต่ นพ.ตนุพล มองว่าการได้เข้าสู่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเหมือนพรหมลิขิต ที่สามารถสอบผ่านโควต้าได้
จากนั้นก็ใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาแพทย์ ก่อนที่จะได้เจอกับเหตุการณ์ "ฝังใจ" และมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางในอนาคต
คุณตาเป็นมะเร็ง แต่ไม่สามารถช่วยได้ ในช่วงที่เป็นนักศึกษาแพทย์ ทำให้ฝังใจว่า ทำไมเมื่อรู้แล้วถึงไม่สามารถช่วยก่อนได้เลย ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนักเลยอย่างรวดเร็ว จากนั้นเมื่อเรียนจบจึงศึกษาหาข้อมูลและเจอเรื่องการ Anti aging เรื่องการ Regenerative medicine การฟื้นฟูเซลล์ เพื่อป้องกันโรคและช่วยคนอื่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และเรียนรู้ความท้าทายใหม่ๆ วิวัฒนาการใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ยึดคติ Health Brings Wealth จากอาจารย์ นายแพทย์ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
นพ.ตนุพล เชื่ออย่างหนึ่งว่า สุขภาพดีจะนำมาซึ่งความสำเร็จ ซึ่งเป็นคติ จาก นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ Health Brings Wealth เพราะฉะนั้นสิ่งที่ นพ.ตนุพล คิดและมีเป้าหมายมาตลอดคือ อยากให้ทุกคนในประเทศสนใจรักสุขภาพ ไม่เพียงเท่านั้น หากเป็นได้ จากประเทศ สู่สังคม สู่โลกที่มีสุขภาพดี คือ กระดุมเม็ดแรกที่ทำให้ก้าวมาถึงวันนี้
หลายครั้งเราเรียงลำดับชีวิตผิด เราอยากรวยอายุเท่านี้ แล้วพอเรารวย เราก็ป่วย เราก็หันไปดูเงินก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เพราะนั่งรถเข็นแล้ว บางอย่างเรามองเรื่องตำแหน่ง เราอยากมีตำแหน่งใหญ่ถึงจุดนี้แล้วเราค่อยพัก พอถึงจริงๆ เราอาจได้พักจริงแต่อยู่บนเตียง เพราะฉะนั้นอยากให้เรียงลำดับใหม่ คือ ถ้าทุกคนกลัวป่วยทำให้สุขภาพดี ถ้าสุขภาพแล้ว จะทำอะไรได้หมด จะไปดูลูก ดูหลาน เปิดร้านอาหาร ทำธุรกิจ ทำงานเพื่อเลื่อนตำแหน่ง ทำได้หมด เพราะฉะนั้น Health Brings Wealth จึงเป็นคติที่ถูกต้องที่สุด
นอกเหนือจากเส้นทางชีวิตและเคล็ดลับความสำเร็จของ นพ.ตนุพล แล้ว ปัจจุบัน การผลักดันศักยภาพของประเทศไทยสู่ความเป็น Wellness Hub ยังเป็นสิ่งที่ นพ.ตนุพล มุ่งมั่นตั้งใจอย่างมาก เพราะเห็นโอกาสความได้เปรียบของไทยในทุกๆ ด้านที่จะสามารถทำให้เกิด Wellness Tourism ได้ คือ 5 กุญแจสำคัญ
- สถานที่ท่องเที่ยว
- อาหาร
- การบริการ
- ภูมิปัญญา วัฒนธรรม เช่น นวดแผนไทย
- MEDICAL HUB ระบบการแพทย์และสาธารณสุข
ซึ่งสอดคล้องกับ Interional Trend ด้าน Wellness ที่กำลัเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยช่วงก่อนโควิด-19 มีมูลค่าการตลาด 5 ล้านล้านเหรียญ แต่มาการคาดการณ์ว่าปี 2025 จะขึ้นไปแตะ 7 ล้านล้านเหรียญ ซึ่ง อุตสาหกรรม Wellness ที่มีอยู่ด้วยกัน 11 สาขา หนึ่งในนั้นคือ Wellness Tourism คาดว่าจะเติบโต 20% ต่อปี โดยในปี 2567 มูลค่าการตลาดทั่วโลกจะขึ้นแตะ 1 ล้านล้านเหรียญ
เพราะฉะนั้น สำหรับประเทศไทย ซึ่งได้รับการโหวต จาก Global Wellness Institute; GWI ให้เป็นประเทศเป้าหมายที่คนอยากมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอันดับที่ 2 ของโลก รองจากออสเตรเลีย จากการจัดอันดับของ Wellness Tourism Initiative 2020 จึงมีโอกาสใน Wellness Tourism อย่างมาก
