แบงก์พาณิชย์รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2566 กำไรสุทธิรวม 60,280.24 ล้านบาท เพิ่ม 11.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากดอกเบี้ยขึ้นและตั้งสำรองลดลง โดยแบงก์ขนาดใหญ่มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ยกเง้นกรณีธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่ต้องต้องสำรองเพิ่มขึ้นจากลูกหนี้รายใหญ่
ผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาดีกว่าคาดไว้ หนุนหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วงวันสุดท้ายของสัปดาห์ โดยดัชนีกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 6.64 จุด หรือ 1.78% ปิดที่ 378.86 จุด มูลค่าซื้อขายมากที่สุด 1.63 หมื่นล้านบาท
KBANK โชว์ไตรมาส 1 กำไร 10,741 ล้านบาท เผยลูกค้ารายใหญ่ส่อเบี้ยวหนี้
SCB กำไรสุทธิไตรมาสแรก 10,995 ล้าน เพิ่ม 9.5% ตั้งสำรอง 9.93 พันล้าน
BAY โชว์ไตรมาส 1 กำไรพุ่ง 17% ที่ 8,676 ล้านบาท - ลดตั้งสำรอง
หุ้นไทยร่วงลงแรงจากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงสั้นๆต้นสัปดาห์ ตามตลาดหุ้นภูมิภาค ก่อนจะร่วงลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน ประกอบกับตลาดประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในการประชุมช่วงต้นเดือนพ.ค. ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิหุ้นไทยอีกครั้ง
สำหรับสัปดาห์นี้ หุ้นไทยปรับตัวลงทุกอุตสาหกรรม โดยกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุด เนื่องจากมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันในตลาดโลกย่อตัวลง อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มแบงก์มีแรงซื้อคืนช่วงท้ายสัปดาห์ หลังแบงก์หลายแห่งรายงานผลประกอบการล่าสุดค่อนข้างดี แม้ระหว่างสัปดาห์จะเผชิญแรงกดดันจากประเด็นการปล่อยสินเชื่อแก่บริษัทรายหนึ่งซึ่งเลื่อนส่งงบการเงิน
ในวันศุกร์ (21 เม.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,558.36 จุด ลดลง 2.15% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 51,348.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.42% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 4.77% มาปิดที่ระดับ 519.24 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (24-28 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,540 และ 1,520 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,570 และ 1,600 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลประกอบการงวดไตรมาส 1/66 ของบจ.ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมี.ค. รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/66 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/66 ของยูโรโซน รวมถึงกำไรบริษัทอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ของจีน
