ครั้งแรก 26 มี.ค."วันหยุดประจำภาคเหนือ" ไหว้พระธาตุ มงคลประจำปีเกิด
วิวาทเดือด! หาบเร่ ปะทะ เทศกิจ ปมขายของบนฟุตปาธ แฉพ่อค้ามาเฟียเรียกเก็บค่าที่
เงินสด 2 ล้านบาท ที่ตำรวจสอบสวนกลางและกรมป่าไม้ร่วมกันตรวจยึดไว้ขณะจับกุมนายสุรเดช อัคราช อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.มุกดาหาร น.ส.กชพรรณ แสงวิรุณ หรือ น.ส.ทิพย์เกษร แสงวิรุณทร อายุ 27 ปี จากการเรียกรับสินบนเป็นเงิน 2 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวกการคืนของกลางไม้พะยูง
โดยจับกุมได้ที่ร้านกาแฟใกล้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.มุกดาหาร ซึ่งชุดจับกุทำตำหนิไว้บนธนบัตร ใส่ถุงพลาสติกหูหิ้วนำไปให้นายสุรเดช ตามสถานที่นัดหมาย กระทั่งพบนายสุรเดช พูดคุยกับผู้เสียหายก่อนจะเรียก น.ส.กชพรรณ เข้าไปรับเงินจากผู้เสียหายที่จอดรถรออยู่หน้าร้านกาแฟ จึงแสดงตัวจับกุม
พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า มูลเหตุคดีนี้ เริ่มจากเมื่อปี 2549 ตำรวจป่าไม้ตรวจยึดไม้พะยูง 11 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท จากตรวจสอบเป็นไม้ถูกสวมเป็นไม้ต่างแดน และใช้เอกสารผ่านแดนปลอม
ต่อมานายคำสะไหว พมมะจัน อายุ 51 ปี เจ้าของไม้พะยูง เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป.เพื่อให้ดำเนินคดีนายสุรเดช เนื่องจากผู้เสียหายกับพวกซึ่งเป็นผู้แทนนิติบุคคลเจ้าของสิทธิ์ในไม้พะยูง 11 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ไทยยึดไว้และนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลไทย
ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ให้คืนไม้ของกลาง เพราะเป็นไม้ของ สปป.ลาว นายคำสะไหว จึงขอรับไม้คืน ซึ่งต้องประสานงานระหว่างหน่วยงานที่ร่วมจับกุมและยึดของกลางไว้ คือ ตำรวจป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทำให้นายสุรเดช ติดต่อเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท
ขณะที่นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ ระบุว่า คดีนี้เบื้องต้นปลัดกระทระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาด ส่วนคดีอาญาให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนสาเหตุที่ทำให้นายสุรเดชเรียกรับสินบนเพราะเป็น 1 ในชุดจับกุม จึงหาช่องทาง ทั้งๆ ที่ศาลฎีกาและคณะกรรมการชุดต่าง ๆ มีความเห็นให้คืนของกลางไปแล้ว
คดีนี้ นายสรุเดชยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่ น.ส.กชพรรณให้การรับสารภาพฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ
