ตร.แกะรอยจีพีเอส ตามยึด MG ป้ายแดง ครบ 16 คัน หลังหนุ่มจ่ายเช็คเด้งซื้อรถ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตำรวจเร่งแกะรอย จีพีเอส ติดตามยึดรถยนต์ยี่ห้อ MG ป้ายแดง หลังชาย จ.ชุมพร จ่ายเช็คเด้งเหมาซื้อรถทั้งหมด 16 คัน โดยตรวจสอบพบว่าเช็คแต่ละใบมีมูลค่าแค่ 1 บาทเท่านั้น ล่าสุดทางตำรวจสามารถติดตามยึดรถกลับคืนมาได้ทั้งหมดแล้ว

พัทยาตั้งด่านวันแรกจับ 2 ราย ฝรั่งเมาเป่าพุ่งปรี๊ดกว่า 200 มิลลิกรัมโวยวายแจกของลับลั่นด่าน

ประหารชีวิต "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรต่อเนื่อง ฆ่ารายที่ 6 คำพิพากษาชี้ "เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างใหญ่หลว...

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2564 พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ ร่วมกันแถลงการติดตามยึดรถยนต์ MG จากระบบ จีพีเอส (GPS) ของรถทุกคันที่ถูกติดตั้งไว้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดรถยนต์กลับคืนมาได้ครบทั้งหมด 16 คันแล้ว  ประกอบด้วยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 5 คัน  สระแก้ว 1 คัน ปราจีนบุรี 1 คัน และในเขตพื้นที่ชลบุรี 9 คัน ( ต.นาเกลือ 2 คัน  อ.บางละมุง 3 คัน  อ.สัตหีบ 4 คัน)

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากชุดสืบสวนตำรวจนครบาล ได้รับแจ้งว่าเมื่อวานนี้ (1เม.ย.64) ทางบริษัทเบสออโตเซลล์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ MG  สาขาเพชรเกษม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายประกอบด้วย นายองอาจ ทรัพย์มั่น อายุ 24 ปี  ซึ่งได้ติดต่อขอซื้อรถยนต์ยี่ห้อ MG  จากพนักงานขายของบริษัท รวม 18 คัน

โดยมี น.ส.ณัฐฐนันท์ อิทธิพร อายุ 43 ปี แฟนสาวเป็นผู้ส่งสลิปการโอนเงินค่าซื้อรถยนต์จำนวนดังกล่าวให้กับทางบริษัท เป็นจำนวนเงินประมาณ 16 ล้าน 2 แสนบาท   ซึ่งต่อมาทางบริษัทได้ทยอยส่งมอบรถยนต์ให้กับ นายองอาจ ไปแล้ว จำนวน 16 คัน และยังเหลืออีก 2 คัน  ที่ยังไม่ได้ส่งมอบ

แต่ว่าต่อมาทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบยอดเงินที่โอนเข้าบัญชีของบริษัท พบว่ามียอดเงินโอนเข้ามาจริงเพียง จำนวน 1 บาทเท่านั้น  ซึ่งไม่ตรงตามสลิปที่ น.ส.ณัฐฐนันท์  ส่งหลักฐานมาให้ทางบริษัทดู  ทำให้ชื่อว่าถูกผู้ต้องหาทั้งสองคนร่วมกันหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี รวมทั้งติดตามรถยนต์ทั้งหมดกลับคืนมา 

สำหรับความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุคือ  นายองอาจ และ น.ส.ณัฐฐนันท์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัวว่าหลบหนีอยู่ที่ใด  แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ทั้งคู่มีหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหา ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม นำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และฉ้อโกงทรัพย์  ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ