น้องสะใภ้ฉุนถูกด่า ใช้เหล็กตีพี่สะใภ้ดับ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




น้องสะใภ้ใช้แท่งเหล็กกระหน่ำตีพี่สะใภ้จนเสียชีวิตในร่องน้ำกลางสวน ก่อนชิงสร้อยคอทองคำ 2 บาทไปขาย หลังก่อเหตุกลับบ้านใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายถูกตำรวจตามจับ อ้างโมโหถูกด่ารุนแรง

หุ้นไทย (21 เม.ย.64) ปิ1,580.01 จุด ลดลง 0.03 จุด

กรมประชาฯ แจงเอง ยืนยัน "ไม่มีเคอร์ฟิว” ชี้ ข่าวปลอม ขออย่าแชร์ต่อ

ตำรวจคุมตัว น.ส.วรนุช  นพบุตร อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาทำร้าย นางวิไล อาลัย อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นพี่สะใภ้จนเสียชีวิต มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณลำคลองติดกับบ้านพัก ในตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

โดย “น.ส.วรนุช” ผู้ก่อเหตุ เดินร้องไห้ไปตลอดทาง พร้อมยกมือไหว้ญาติของผู้ตาย  ที่มารอดูการทำแผนจำนวนมากซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตก็พยายามฝ่าวงล้อมตำรวจจะเข้าไปรุมทำร้ายผู้ต้องหา พร้อมตะโกนด่าและสาปแช่ง ด้วยความโกรธแค้น เจ้าหน้าที่จึงรีบคุมตัวขึ้นรถกลับโรงพักทันที

สำหรับสาเหตุในครั้งนี้ “วรนุช” อ้างว่าไม่พอใจที่ผู้ตาย ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. “วรนุช” ได้มาที่บ้านของ “วิไล” และชักชวนกันเข้าไปดูต้นทุเรียน มังคุด ในสวน

ระหว่างนัน “วิไล” ได้เดินลงไปในคลองซึ่งไม่มีน้ำ เพื่อจะตัดทางระกำขึ้นมาใช้งานในสวน ระหว่างนั้น “วิไล” ก็พูดเรื่องการกั้นเขตที่ดินแบ่งที่เคยมีปัญหากันขึ้นมา 

ทำให้ทาง “วรนุช” ไม่พอใจเดินกลับไปเอาท่อนเหล็กมาวางไว้ริมคลอง ก่อนจะเดินกลับมาคุยกับ “วิไล” อีกครั้ง  โดยที่ทางผู้ตายก็ยังคงตำหนิและด่าทอ “วรนุช” จึงเกิดความไม่พอใจ

พอจังหวะ “วิไล” ยืนหันหลัง “วรนุช” จึงใช้ท่อนเหล็กตีเข้าที่ศีรษะหลายครั้ง จนล้มลงในคลอง ก็ยังเข้าไปตีซ้ำอีก แล้วทิ้งร่างไว้แบบนั้น ก่อนจะหยิบสร้อยคอทองคำของ “วิไล” ไปด้วย จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มของวันที่ 16 เม.ย. จึงมีคนมาพบศพ

ขณะที่ “วรนุช” ผู้ต้องหารับสารภาพ อ้างว่าบันดาลโทสะเพราะถูกผู้ตายด่าว่า และชวนทะเลาะเรื่องล้อมรั้วกั้นเขตที่ดิน ด้วยความโมโหจึงเดินกลับบ้านไปเอาเหล็กยาวเกือบ 50 เซนติเมตร แล้วเดินกลับมาพูดคุยกับผู้ตายอีกเพื่อหวังให้อารมณ์ดีขึ้น แต่พี่สะใภ้ยังคงด่าว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงอีก จึงสบโอกาสใช้เหล็กกระหน่ำตีที่หัวและท้ายทอยจนล้มลง จากนั้นได้เข้าไปตีซ้ำอีกหลายครั้งจนแน่นิ่งคาร่องน้ำ

หลังก่อเหตุ “วรนุช” ก็กลับบ้านระหว่างทางนำท่อนเหล็กที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งในลำธาร แล้วก็ใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ส่วนเรื่องสร้อยทองคำหนัก 2 บาท ของผู้ตายที่หายไป “วรนุช” อ้างว่าขณะกระหน่ำตีผู้ตายไม่ทราบว่าสร้อยคอขาดกระเด็นติดมาในเสื้อตอนไหน จึงนำไปขายที่ร้านทองและนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ