อ้างเป็นตร.ทำคดีน้องชมพู่ หลอกเงินแฟนคลับแม่น้องชมพู่ ได้หลายแสนเปย์สาว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตำรวจสุทธิสาร จับตัวชายวัย 45 ปี อ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ พบพฤติการณ์เรี่ยไรเงินจากแฟนคลับแม่น้องชมพู่ เสียหายกว่า 3 แสนบาท

ตำรวจ สน.สุทธิสาร จับกุม นายพรเทพ พุ่มสะอาด หรือ "เดี่ยว" อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่แอบอ้างตัวเป็น ตำรวจชุดสืบสวนคลื่คลายคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ไปหลอกเรี่ยไรเงินจากแฟนคลับแม่น้องชมพู่ ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อโอนเงินให้เป็นจำนวนมากได้ โดยเมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจได้วางแผนร่วมกับแอดมินกลุ่มแฟนคลับแม่น้องชมพู่ นัดแนะให้ผู้ต้องหามาพบที่ สน.สุทธิสาร ก่อนถูกควบคุมตัวสอบสวนนั้น

ทนายษิทรา แฉ ตร.จับลุงพลทำเกินเหตุ

144 วัน คดี "น้องชมพู่" ย้อนคำอธิบายจากผบ.ตร.ก่อนสรุปปิดฉากคดี

โดยทางพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกฝากขัง นายพรเทพผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวด้วย โดยให้เหตุผลว่าเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี

ด้านนายพรเทพ ไม่ขอพูดถึงเรื่องคดี ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพียงแต่ตัดพ้อว่าสื่อมวลชนนำเสนอข่าวเกินจริง

ด้านพันตำรวจเอกภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเล่าว่า เดิมทีมีอาชีพเป็นคนขับรถตู้รับจ้าง แต่เนื่องด้วยปัญหาเศรษฐกิจ จึงก่อเหตุเพราะต้องการเงินนำไปใช้จ่าย และนำไปเปย์ผู้หญิง โดยใช้วิธีการแอบอ้างว่าเป็นตำรวจให้ดูน่าเชื่อถือเข้าไปหลอกแฟนคลับแม่น้องชมพู่ ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นพบมี ผู้เสียหายกว่า 10 คน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ไปได้เงินบริจาคไปหลายแสนบาทด้วยกัน

สำหรับพฤติการของผู้ต้องหา มีการแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ ยศนายดาบตำรวจ ที่ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่ตามคดีน้องชมพู่ มีการอ้างว่าเป็นตำรวจจาก ปส. และจากหลายหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ทั้งศูนย์สืบสวน และ สภ. ก่อนจะตระเวนเข้าร่วมกลุ่มแฟนคลับต่างๆ และเริ่มหลอกลวงเหยื่อ เมื่อหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจจึงมีเหยื่อหลายรายโอนเงินมาช่วยเหลือ เพราะผู้ต้องหามีการใช้ภาพที่สวมใส่เครื่องแบบคล้ายตำรวจ มีป้ายห้อยคอ และถ่ายตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงบ้านน้องชมพู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนของแม่น้องชมพู่ ทราบว่าเคยมีการเข้าลงบันทึกประตำวันไว้ ที่.สภ.กกตูม ว่ามีชายแอบอ้างเป็นตำรวจมาป้วนเปี้ยน แถวบ้าน เกรงว่าจะเกิดอันตราย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ฉ้อโกงประชาชน และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่

 

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ