วันนี้ 25 มิ.ย. 2564 น.ส.ร่มเย็น บุญสืบ ภรรยาของนายสุขสันต์ เสวาพันธ์ อายุ 54 ปี หรือลุงทู่ ผู้เสียชีวิต ถูกอดีตทหารเกณฑ์ ผู้ก่อเหตุ ยิงเสียชีวิตใน รพ.สนาม ขณะเข้ารักษาอาการป่วยโควิด เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ทำใบมรณบัตร ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ก่อนไปยื่นเรื่องรับร่างผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา
ญาติเหยื่อชายคลั่ง รับศพด้วยความโศกเศร้า
จากนั้นภรรยาและญาติผู้เสียชีวิต นำศพนายสุขสันต์ มาฌาปนกิจที่วัดมะกอก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิทันที ซึ่งบรรยากาศในงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีบรรดาเพื่อนวินจักรยานยนต์รับจ้างและญาติร่วมงาน เพียงไม่กี่คน ท่ามกลางความโศกเศร้า
ภรรยาผู้เสียชีวิต เผยว่า เธอและสามีผู้ตาย อยู่กินกันมาประมาณ 2 ปี เธอมีลูกติดกับสามีเก่ามา 1 คน
โดยสามีเธอตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. คาดว่าสามีติดเชื้อมาจากที่ทำงาน เพราะมีอาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้างชุมชนวัดมะกอก พระราม6 ซอย 28
ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. เธอและลูกวัย 4 ขวบ ไปตรวจก็พบติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามภายในสถาบันธัญญารักษ์ ทั้งครอบครัว
เธอกับลูกรักษาตัวจนหายดีออกมาเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ส่วนสามีแพทย์ตรวจเจอว่าเชื้อลงปอด จึงให้ยาต้านก่อน และเตรียมให้กลับช่วงสิ้นเดือนนี้
ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่าเธอได้คุยครั้งสุดท้ายกับสามีในช่วงเย็น ก่อนวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นการพูดคุย ถามสารทุกข์สุกดิบ โดยสามีบอกว่าวันนี้อาการดีขึ้น ไม่ได้กินยาต้านแล้ว และยังบอกอีกว่า เดี๋ยวจะได้กลับบ้านเจอกันสิ้นเดือนนี้
จนกระทั่งหลังเกิดเหตุกลางดึกช่วงกลางดึก มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าสามีเธอ ถูกยิงเสียชีวิต ก็รู้สึกช็อตกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังการสูญเสียครั้งนี้ ภรรยาของผู้เสียชีวิต บอกว่าภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ผู้เสียชีวิตเป็นคนดูแลทั้งหมด เพราะเธอออกจากงานมาเลี้ยงลูก ซึ่งหลังจากนี้ตนเองก็คงต้องออกไปหางานทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องการเยียวยาเพราะตนเองไม่มีรายได้เลยในตอนนี้ ส่วนเรื่องคดีอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ด้านน.ส. จุฑามาศ สังทัต ณ อยุธยา หลานสาวผู้เสียชีวิต บอกว่าทางครอบครัว รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้มาก เพราะลุงเป็นคนรักครอบครัว ชอบช่วยเหลือคนอื่น โดยปัจจุบันช่วยส่งเสียลูกของน้องชายวัย 7 ขวบอยู่ ส่วนเรื่องคดีความ ตนเองมองว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนป่วยมีปัญหาทางจิต หากพ้นโทษก็อาจกลับมาทำผิดซ้ำ จึงอยากให้ได้รับโทษสูงสุด หากเป็นไปได้ก็อยากให้ประหาร เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างด้วย
หนึ่งในเพื่อนวินจักรยานยนต์รับจ้างเดียวกัน บอกว่า ผู้เสียชีวิต เป็นคนดี มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมวินเสมอ มักจะช่วยซ่อมรถให้เพื่อนๆ เพราะเคยเปิดอู่ซ่อมรถมาก่อน และไม่เคยเก็บเงินค่าซ่อมรถจากเพื่อนเลย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนๆ ร่วมวินไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคน
หนึ่งในเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิต คือนายนรินทร์ อยู่สาโก หรือ ลุงแหง้ว อายุ 54 ปี เพื่อนสนิท เล่าว่า ตนกับลุงทู่ เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่จำความได้เพราะอายุไล่เลี่ยกัน โตมาด้วยกัน เล่นมาด้วยกัน จนมาขับรถจักรยานยนต์รับจ้างก็มาทำด้วยกันมากว่า 30 ปี
ภรรยาชายถูกยิงในรพ.สนาม เผย สามีเป็นเสาหลัก
ลุงแหง้ว เผยความในใจลุงทู่ด้วยน้ำตาคลอว่า หลังจากรู้ข่าวว่าเพื่อนรักเสียชีวิตรู้สึกใจหายและเสียใจ ทุกวันนี้ยังจำคำพูดสุดท้ายที่พูดกับลุงทู่ได้ดีหลังจากที่ทราบว่าลุงทู่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้บอกให้ลุงทู่หยุดงานไม่ต้องมาขับวิน ขอให้ไปรักษาให้หายดีแล้วค่อยกลับมาขับไม่ต้องห่วง ไม่คิดว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้จะไม่ได้เจอกันอีกเลย อยากบอกเพื่อนว่าหลับให้สบาย อีกไม่นานคนอื่นเขาก็ตามไปเหมือนกัน
การช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อถูกยิงเสียชีวิต ล่าสุดนพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้ อำนวยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรม ราชชนนี (สบยช.)
กรมการแพทย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร มอบเงินเยียวยา จำนวน 50,000 บาท แก่ภรรยาผู้ป่วยโควิด 19 ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่คนร้ายถือปืนบุกกราดยิงผู้ป่วยที่หอผู้ป่วย COVID ทาง สบยช. ระบุว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ขณะที่เหยื่ออีกรายนายรัฐวิทย์ สันติคุปตพงศ์ พนักงานร้านสะดวกซื้อสาขาซอยลาดพร้าว 25 ที่เสียชีวิต ด้าน ซีพีออลล์ ประกาศช่วยเหลือครอบครัวของพนักงาน 7-11 อย่างเต็มที่
ปิดเกม! จับแล้วอดีตทหารคลั่ง กราดยิงรพ.สนาม "ตำรวจ" เตือน จรรยาบรรณสื่อโทรสัมภาษณ์คนร้ายตอนล้อมจับ