นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยกับทีมข่าว PPTV ระบุว่า หลักการทำงานของแพทย์นิติเวช จะระบุการเสียชีวิตเบื้องต้นเพื่อให้ญาติไปออกใบมรณบัตรที่อำเภอก่อน และจะถูกรวบรวมไว้เพื่อทำสถิติการตายของคนในประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับผลชันสูตรพลิกศพ
นพ.สมิทธิ์ อธิบายว่าหากแพทย์นิติเวชไม่ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้ามาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น และหากชันสูตรศพไปแล้ว แต่ไม่พบบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต แต่พบประวัติว่าผู้ต้องหารายนี้เสพยาเสพติดมาก่อน
อ้างคลิป "ผกก.โจ้" นครสวรรค์ นาที 5 ชายหัวเกรียน ทรมานผู้ต้องหา รีด 2 ล้าน "ทนายตั้ม" โพสต์
ผบ.ตร.จ่อเซ็นให้ "ผู้กำกับโจ้" ออกจากราชการ
จากการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ก็ต้องสันนิษฐานเบื้องต้นว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากสารเสพติด แต่หลังจากนั้นหากพบผลจากเลือดหรือชิ้นเนื้อเพิ่มเติมก็สามารถระบุสาเหตุการตายเพิ่มเติมในใบชันสูตรพลิกศพได้
แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่า แค่ตำรวจให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหามีประวัติเสพยา แล้วจะระบุสาเหตุการตายได้เลย เพราะต้องตรวจปัสสาวะก่อน ถ้าไม่พบสารเสพติด ก็ระบุว่า ตายจากสารเสพติดไม่ได้ กรณีนี้ แพทย์นิติเวชตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย จึงต้องระบุสาเหตุการตายเบื้องต้นไปก่อน
ส่วนพฤติการณ์ที่ใช้ถุงคลุมศีรษะจนทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต นพ.สมิทธิ์ ระบุว่าวิธิการนี้ทำให้เห็นแผลได้น้อยเมื่อต้องชันสูตรพลิกศพ และหากชันสูตรศพก็เป็นไปได้ยากที่จะทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เพราะไม่พบบาดแผลใด ๆ แม้แต่ร่องรอบการต่อสู้ เพราะผู้ตายถูกใส่กุญแจมือไว้ด้วย
นพ.สมิทธิ์ บอกอีกว่า หากแพทย์นิติเวชที่เป็นคนชันสูตรศพเห็นคลิปวิดีโอนี้ และสามารถยืนยันได้ว่าคนในคลิปเป็นคนเดียวกับผู้ตาย ก็สามารถระบุสาเหตุการตายว่าขาดอากาศหายใจได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับผลชิ้นเนื้อและหลักฐานอื่น ๆ ประกอบด้วย
“ทนายเดชา” ท้าคนปล่อยคลิป แจ้งจับ ตบทรัพย์ “ผกก.โจ้”
รพ. แจง หนังสือรับรองการตาย เหยื่อ "ผู้กำกับโจ้" เป็นข้อมูลขั้นต้น อาจไม่ตรงผลชันสูตร