นายธนากฤต สุพิทิพย์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านปะยางในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนอ้างว่า “นายแจ็ค”ลูกชายวัย 14 ปี ถูกเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ สังกัด สภ.บางละมุง รุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ
นายแจ็ค เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 22 ส.ค.เขาขี่รถจักรยานยนต์เพื่อนำกาแฟไปให้แม่ที่ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะเมืองพัทยา โดยขี่รถตามถนนสาย 36 กระทิงลาย-ระยอง ได้พบกับตำรวจอาสา 4 นายขับรถติดตามมา
แจ้งความตำรวจอาสาอุดรธานี ทำร้ายร่างกายชาวบ้าน
ตร.ตั้งกรรมการสอบ อส.ใช้กระบองตีเด็ก 2 ขวบบาดเจ็บ
ด้วยความกลัว “นายแจ็ค” รีบเร่งเครื่องหลบหนี แต่ทางตำรวจอาสาก็ขับรถตามจนทัน จากนั้น 1 ในกลุ่มอาสาได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์จนล้มก่อนใช้ปืนไม่ทราบชนิดจ่อที่ศีรษะ แล้วรุมทำร้ายจนบาดเจ็บ ก่อนจะใส่กุญแจมือโยงติดกับท้ายรถจักรยานยนต์ แล้วคุมตัวไปที่ตู้ยามตำรวจหนองเกตุน้อย อ้างว่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ตำรวจอาสาทั้ง 4 นายก็ข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกคนอื่น หากไม่เชื่อฟังจะตามจับมาดำเนินคดีเพื่อให้ติดคุก
ด้านพ่อของผู้เสียหาย บอกว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ ขณะตำรวจอาสาขับรถไล่ตามลูกชาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เพราะลูกชายโดนทำร้ายและยังใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์จนล้ม และยังถูกใช้ปืนจ่อศีรษะ
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางละมุง บอกว่าเรียกตำรวจอาสาทั้ง 4 นาย มาสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งทั้ง 4 นายให้การว่าระหว่างออกตรวจในพื้นที่ พบวัยรุ่นคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว และขี่รถ แบบยกล้อ พอวัยรุ่นเห็นเจ้าหน้าที่ก็ขี่รถย้อนศร
โดยทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวขี่รถด้วยความเร็วและย้อนศร ทางเจ้าหน้าที่ใช้รถยนต์จึงย้อนศรตามไม่ได้