“สันธนะ” ชี้ “ผู้กำกับโจ้” ขาดประสบการณ์เค้นข้อมูลผู้ต้องหา เชื่อไม่ได้ทำครั้งแรก
พล.ต.ต.วิชัย สังประไพ หรือ ผู้การแต้มอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พูดคุยกับทีมข่าวPPTV ว่า ส่วนตัวไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่บอกว่ามีรีดไถเงินจากผู้ต้องหาจำนวน 2 ล้านบาท เกิดขึ้นก่อนหรือหลังในคลิปวีดีโอ แต่ที่สังเกตได้ คือ ในคลิปไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องเงินจำนวนนี้เลย มีแต่ถามว่า ของกลางอยู่ไหน เอาไปไว้ไหน แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมตอบ ส่วนตัวมองว่าผู้ต้องหาอาจจะกำลังกลัวอิทธิพลของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง หรือบุคคลนั้นอาจจะเป็นคนใกล้ชิด ที่ไม่สามารถระบุได้
“เรียกร้องเงินผมไม่รู้ อาจจะเรียกร้องก่อนหรืออะไรที่มันไม่อยู่ในเทป ผมพูดถึงในเทปนะดังนั้นเราต้องคิดต่อว่าทำไมคนนี้ไม่บอก เพราะถ้ามันเจ็บขนาดนี้มันต้องบอกแล้วว่ายาอยู่ที่ไหนใครเป็นนายใหญ่มัน ใครเป็นเจ้าของ ถ้ามันไม่บอกแสดงว่ามันต้องกลัวอิทธิพลหรือคนที่มันไม่บอก มันมีบุญคุณอะไรใกล้ชิดหรือเปล่าแบบนี้ต้องไปดู”
ส่วนพฤติกรรมที่แก๊ง05 นำโดย พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวกใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาเพื่อเค้นเอาคำสารภาพ ผู้การแต้ม ระบุว่า กรณีนี้ตนมองว่า ผู้กำกับโจ้ เป็นตำรวจที่โตไว ประกอบกับมีคนถือหาง ทำให้ไม่กลัวใครและกล้าที่จะทำความผิด เมื่อดูจากคลิปวีดีโอ ทำให้เห็นพฤติกรรมของผู้กำกับโจ้ชัดเจน ว่าเป็นคนมีความอดทนต่ำ ไม่ได้ถูกปลูกฝังมาเหมือนกับตำรวจยุคก่อนทั้งในเชิงการเก็บหลักฐานและการสอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวตำรวจยุคก่อนจะนิยมใช้กัน แต่ปัจจุบันไม่นิยมทำแล้ว เพราะมีเทคโนโลยีที่ช่วยเค้นสอบผู้ต้องหาได้ดีกว่านี้
“การจัดเก็บของกลางเก็บยังไง เอาของกลางไปพิสูจน์ยังไงทุกอย่างสอนหมดอย่างเช่นเราจะเอาลายนิ้วมือจากคนร้ายจะเก็บลายนิ้วมือเขายังไง ไม่ใช่อยู่ดีๆ ของพิมพ์มือหน่อยคนบางคนเขาไม่ให้ มันสิทธิ์ของผม เขาก็มีเทคนิคโดยที่คุณไม่รู้ แล้วคุณก็ตายใจคุณกลับบ้านไปคุณก็ตายใจไม่รู้ตำรวจไม่ได้ทำอะไร แต่ผมได้ข้อมูลจากคุณพอสมควรแล้วอย่างนั้นสมัยก่อนเขาสอนกันแบบนี้ แต่สมัยนี้ไม่ใช่จะเอาเร็วเลยมาใช้วิธีการผิด ๆ”
นอกจากนี้ผู้การแต้ม ยังระบุอีกว่า จริง ๆ แล้วทรัพย์สินของผู้กำกับโจ้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการรีดไถเงินผู้ต้องหา เพราะถือเป็นมูลค่าเพียงเล็กน้อย แต่คาดว่ามาจากธุรกิจรถหรูที่ทำมานาน ซึ่งคนในแวดวงต่างรู้ดี