เครียดโดนโกง ด.ช.เส้นเลือดสมองแตกดับ
ไม่ตรงปก! สั่งซื้อโทรศัพท์ได้มาม่า 1 ห่อ
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงของน้องก้อง เด็กชายวัย 14 ปี ที่โทรศัพท์มาร้องไห้กับผู้เป็นแม่ เพราะโดนร้านค้าออนไลน์โกง ไม่ยอมส่งโทรศัพท์มือถือที่สั่งซื้อให้ ทั้งที่มีการจ่ายเงินไปแล้ว คลิปนี้นางแฝง แสงทองคำ ผู้เป็นแม่บันทึกไว้โดยไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะต้องสูญเสียลูกชายไป จากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งเธอเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการที่ลูกชายเกิดความเครียดเพราะถูกโก
วันนี้ นางแฝงและสามีคือ นายทุน ลุงหลู่ เดินทางมาที่ว่าการอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอเอกสารใบมรณะบัตรลูกชาย นำไปเป็นหลักฐานแจ้งความที่ สภ.นาหวาย ให้ดำเนินคดีกับร้านที่โกงเงินลูกชาย หลังจากเมื่อวานครอบครัวได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพลูกชาย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว
ทั้งสองคนเล่าว่า ช่วง 1 กันยายนที่ผ่านมา ได้ไปทำงานต่างพื้นที่ โดยลูกชายซึ่งเป็นเด็กเรียนดีได้โทรศัพท์มาขอเงิน 5 พันบาท บอกว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือเรียนออนไลน์ เพราะเครื่องเก่าหน้าจอแตก จึงอนุญาต
ภายหลังทราบว่า ลูกไปซื้อจากร้านค้าในอินสตาแกรมหรือไอจี โดนโอนเงินให้ร้าน เมื่อ 3 กันยายน ผ่านไป 1 อาทิตย์ จึงทราบว่าถูกโกงเพราะร้านไม่ส่งของให้ ทำให้ลูกเครียดโทรศัพท์มาร้องไห้ ก็พยายามพูดปลอบใจว่าไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวจะหาเงินซื้อให้ใหม่ แต่สุดท้าย 17 กันยายน ลูกซึ่งเครียดมากได้โทรมาบอกว่าปวดหัวมาก จากนั้นก็ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องนำส่งโรงพยาบาล มาทราบภายหลังว่า มีอาการเส้นเลือดในสมองแตก แพทย์บอกว่า แม้จะผ่าตัดแต่ก็อาจช่วยไม่ทัน สุดท้ายก็เสียชีวิต ยืนยันลูกไม่ได้ป่วยหรือมีโรคประจำตัวมาก่อน
ก่อนหน้านี้มีครูคนหนึ่งส่งเรื่องราวของน้องก้องไปให้เพจชื่อ "ครูอินดี้" ซึ่งมีผู้ติดตามประมาณ 1 แสนคน จนมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยากให้มีการจับกุมคนที่โกงเงินน้องก้อง
ขณะเดียวกันก็มีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแสดงความเห็นว่าถูกมิจฉาชีพคนดังกล่าวหลอกในลักษณะต่างกันไป หนึ่งในผู้เสียหายคือ นางสาวศศิ สุนทร ซึ่งเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า หลังเห็นรูปในไอจีก็รู้ทันทีว่าเป็นคนที่เคยหลอกเธอ โดยมิจฉาชีพรายนี้มีสองแอคเคาท์ คือ phonebymint และ phonenm ซึ่งมียอดผู้ติดตามพอกันประมาณ 6 หมื่นคน
ซึ่งจากข้อมูลที่เธอทราบพบว่า ในการขายโทรศัพทมือถือ มีบางคนได้สินค้าจริง แต่ช่วงหลังมีผู้ถูกหลอกมากกว่า 500 คน จนต้องตั้งกลุ่มไลน์พูดคุยกัน และมีการดำเนินคดีไปพักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังจับกุมไม่ได้
นอกจากนี้ไอจีดังกล่าว ยังหลอกคนมาสมัครงานอ้างว่าจะให้เป็นแอดมินเพจขายของ รวมถึงเธอ ที่ถูกหลอกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมิจฉาชีพ อ้างว่าจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 5,000 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเปิดบัญชีกับธนาคารแห่งหนึ่ง แต่หลังจากสมัครไปแล้วก็ติดต่อมิจฉาชีพไม่ได้ จนกระทั่งมีหมายเรียกมาที่บ้านบอกว่ามีคนนำบัญชีธนาคารชื่อเธอ และแฟนไปหลอกลวงคนอื่น เชื่อว่ามิจฉาชีพใช้วิธีนี้หลอกเอาบัญชีคนอื่นไปหลอกลวงรับโอนเงินจากเหยื่อต่อ เธอจึงไปอายัดบัญชีและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.นครราชสีมา
ทีมข่าวลองค้นหาชื่อไอจีที่มิจฉาชีพใช้ พบว่า ส่วนใหญ่จะติดแบลคลิสต์ และมีโพสต์ให้ข้อมูลว่า โดนไอจีชื่อนี้โกง ไอจีทั้งสองชื่อ ใช้รูปภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ใช้ชื่อ "ไอรดา ซึ่งจากการสอบถาม นางสาวศศิผู้เสียหายบอกว่า เคยคุยกับ เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว บอกว่าได้เข้าแจ้งความไว้แล้วว่า มีคนนำรูปของเธอไปหลอกลวงคนอื่น ซึ่มทีมข่าวพยายามติดต่อไปที่ เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ ไอรดา แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ด้าน พ.ต.อ.สกุลรัชช์ คงทอง ผกก.สภ.นาหวาย บอกว่า อยู่ระหว่างการติดตามหาผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีปลายทางที่รับโอน เบื้องต้นตรวจพบว่าเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ชื่อบัญชี น.ส.นฤมล ขอสงวนนามสกุล โดยตรวจพบว่าชื่อสกุลนี้มีตรงกันสองคน อยู่ระหว่างประสานกับทางธนาคารเพื่อหาตัวเจ้าของบัญชีตัวจริง
อีกด้านทีมข่าวสอบถามไปยัง พลตำรวจตรีฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ระบุว่า พบมีคนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ 2-3 คน คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน ในการตรวจสอบ ส่วนเรื่องความผิดเบื้องต้นจะเข้าข่าย "ฉ้อโกง" ซึ่งต้องดูข้อมูลประกอบหลังทราบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก อาจต้องดูพฤติกรรมว่า จะเข้าข่าย "ฉ้อโกงประชาชน" หรือไม่