กรอ. รู้ตัว"บริษัท"ลักลอบทิ้งสารเคมีลพบุรี
กรอ.จ่อดึง ดีเอสไอ ทำคดีลักลอบทิ้งสารเคมี
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมส่งหนังสือเรียก 4 บริษัทกำจัดของเสียอุตสาหกรรม มาให้ข้อมูล หลังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับรถบรรทุก 3 คัน ที่ขนสารเคมีไปทิ้งที่จังหวัดลพบุรี ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่ให้เจ้าของที่ดิน ใช้รถแบ็คโฮ ขุดดินดูความลึกของสารเคมีจำนวนหนึ่งที่พบว่าถูกฝังกลบไปแล้ว และพบว่าเมื่อขุดลงไปเพียง 1 เมตร ก็มีไอเหยพร้อมกลิ่นฉุนออกมา
เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม จึงเก็บตัวอย่างดิน สารเคมี น้ำ ในหลายจุด เพื่อนำไปตรวจในห้องปฎิบัติการ พิสูจน์ว่าเป็นสารเคมีชนิดใดบ้าง
นายพฤกษ์ ศิโรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า สภาพที่เกิดขึ้นขัดแย้งกับคำให้การของเจ้าของที่ดิน ที่อ้างว่าจุดที่ถมดิน เป็นเศษอิฐ หิน ปูน เพราะหลังขุดได้ในระดับความลึก 1 เมตร มีกลิ่นเหม็นฉุน ส่วนการขยายผลไปยังผู้กระทำผิดรายอื่น ขณะนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ทำหนังสือ เพื่อให้พนักงานสอบสวนเชิญ บริษัทกำจัดขยะอย่างน้อย 4 แห่ง มาให้ข้อมูล หลังพบว่ารถบรรทุก 3 คัน ที่ขนของเสียไปทิ้ง ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และระบุว่ารับจ้างขนของเสียให้ 4 บริษัท ซึ่งยังเปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นบริษัทใด
ผอ.กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า รถ 3 คันนี้ ติดจีพีเอส และแสดงข้อมูลชัดเจนว่า ออกมาจากต้นทางในเวลา 02.00 น. และไปถึงปลายทางที่จุดทิ้งสารเคมี เวลาประมาณ 05.00 น. ระหว่างวันที่ 26 - 27 สิงหาคม โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
เมื่อสอบถามว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำลังตรวจสอบบริษัทในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์หรือไม่ เพราะมีบริษัทรับกำจัดขยะหลายแห่ง ผอ.กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ไม่ได้ให้รายละเอียด แต่ย้ำว่าอยู่ในข่ายที่กำลังตรวจสอบ
ส่วนการสอบสวนนายสุเทพ เจ้าของที่ดิน เบื้องต้นยังไม่ซัดทอดถึงคนอื่น ๆ แต่จากการขยายผล พบว่า คืนวันที่ 13 ลูกน้องของนายสุเทพ ได้ขนย้ายถังสารเคมีจำนวนหนึ่ง ไปเทกองไว้หน้าบ้านแม่ตัวเอง ที่ตำบลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่า ของกลางถูกฝังกลบด้วยดินจนมองไม่เห็นถังสารเคมี แต่มีกลิ่นคล้ายสบู่เหลวฟุ้งไปทั่วบริเวณ มีรถแบ็คโฮจอดอยู่ 1 คัน สอบถามแม่นายสุเทพ ทราบว่าถังสารเคมีถูกขนย้ายมาเมื่อวันที่ 13 กันยายน โดยลูกน้องของนายสุเทพ เมื่อถังมาถึง ได้เทน้ำที่อยู่ในถังออก ก่อนนำมาล้าง
คดีนี้ถูกตั้งข้อสังเกตจาก นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม แจ้งข้อหาประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อนายสุเทพ นั่นหมายความว่า พื้นที่นี้ถูกตีความให้เป็นโรงงาน เพราะองค์ประกอบเข้าข่ายเป็นโรงงานได้ กรมโรงงานจะเป็นหน่วยงานหลักที่จะดำเนินดีผู้กระทำผิด ขณะที่ก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานแรกๆที่เข้ามาตรวจสอบ เพราะพื้นที่เป็นสิ่งแวดล้อมทั่วไป
นายสนธิ ย้ำว่า การที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม มีอำนาจมากที่สุดในการทำคดีนี้ จะถูกจับตา เพราะถือเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจอนุญาตเปิดปิดโรงงานได้ ขณะเดียวกันยังเป็นหน่วยงานตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมด้วย