พี่สาวปล่อยโฮ รู้สึกผิดส่งน้องบำบัดศูนย์ท่าพุฯ เผยเสียเงิน 3 หมื่น รักษาไม่หาย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีศูนย์บำบัดยาเสพติดท่าพุราษฎร์บำรุง จ.กาญจนบุรี ถูกเปิดเผยสภาพความเป็นอยู่ยากลำบากจนติดแฮชแทก #นรกบนดิน กระทั่ง “หมอปลา” ได้บุกเข้าให้การช่วยเหลือผู้บำบัดกว่า 300 คน ล่าสุดวันนี้ “หมอปลา” ได้พาผู้บำบัดกว่า 10 คน เข้าแจ้งความต่อกับตำรวจกองปราบฯ ขณะที่พี่สาวของผู้บำบัดยาถึงขั้นร้องไห้ เผยรู้สึกผิดที่ส่งน้องเข้ารับการบำบัด

น้องเจ้าอาวาสท่าพุฯ รับไม่มีเงินสร้างอาคารใหม่ ตีผู้บำบัดฯ เพราะบางคนคุมสติไม่ได้

ร้องกองปราบฯ ดำเนินคดีวัดท่าพุราษฎร์บำรุง

ผู้ปกครอง แห่รับลูก ปมดราม่าศูนย์บำบัด วัดท่าพุฯ กาญจนบุรี

คำให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา ของพี่สาวของผู้ติดยาเสพติดรายหนึ่ง ที่เข้ารับการรักษาภายในศูนย์บำบัด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี  โดยบอกว่าส่วนตัวบ้านพักอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ส่วนแม่และน้องชายอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด  โดยน้องชายติดยาบ้ามานานแล้ว กระทั่งล่าสุดเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วมีอาการคล้ายกับประสาทหลอน และกังวลว่าจะทำร้ายคนภายในบ้าน  

แม่จึงไปปรึกษากับตำรวจแถวบ้านและถูกชักชวนให้เข้าร่วมบำบัดที่ศูนย์แห่งนี้  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับทีมแพทย์เป็นผู้แนะนำ  และการันตีว่าจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ภายใน 1 ปี

“พูดไม่ออกเหมือนกันค่ะ  พอดูข่าวแล้วยิ่งแบบว่า จากชีวิตที่เราแบบแย่ ๆ นะ ความรู้สึกจากแย่ ๆ อยากให้น้องเขาหายอะไรอย่างนี้ ทำไมเราส่งเขาไปอยู่แบบนั้น อะไรอย่างนี้ค่ะ กินข้าวบูดแล้วก็แบบข้าวในขัน ขันหนึ่งกินกัน 10 กว่าคน แล้วตักคนละช้อน วนกันแล้ว แบบหลาย ๆ อย่างที่ดูตามข่าวคือมันก็พูดไม่ออกเหมือนกันอะไรอย่างนี้”  พี่สาวของผู้ติดยาเสพติด กล่าว

 

พี่สาวของผู้ติดยาเสพติด กล่าวต่อว่า หลังจากที่เข้าร่วมโครงการ ตำรวจคนนี้ได้มาบอกกับเธอว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ 20,000 บาท เพื่อใช้เป็นค่ายาและค่าบำบัดรักษา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ากระบวนการรักษามีเพียงการเอ็กซเรย์ปอดและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งน่าจะมีค่าใช้จ่ายเพียงแค่หลักพันบาทเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเรื่องเป็นข่าวใหญ่โต ถึงสภาพความเป็นอยู่ของทางศูนย์เหมือนนรกบนดิน ตนจึงได้ติดต่อทางหมอปลา เพื่อมอบหลักฐานทั้งหมดให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป  

 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ “หมอปลา” หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว ในวันนี้ได้พาผู้บำบัดยาเสพติด พร้อมด้วยทนายความ  และโกบอย ยูทูบเบอร์ชื่อดัง มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม หมอปลา เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่าศูนย์บำบัดมีสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่และไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จึงเข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.ด่านมะขามเตี้ย แต่ก็ไม่มั่นใจในการดำเนินการของตำรวจในพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่า มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดกาฬสินธุ์และร้อยเอ็ด รวมถึงอาสาสมัครในจังหวัดกาญจนบุรี นำผู้เสียหายบางคนที่ไม่ได้เป็นผู้เสพยาเสพติด แต่เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอื่น มาต่อรองว่าหากต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการบำบัดเป็นเวลา 1 ปี เพื่อแลกกับการถูกดำเนินคดี

สำหรับผู้บำบัดยาเสพติดที่มาในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้เข้ารับการบำบัด ในระยะเวลา 3เดือน - 1ปี พร้อมกับโชว์ร่องรอยผิวหนังที่เป็นตุ่มซึ่งเกิดจากโรคผิวหนังและรอยเกลื้อนที่หัว รวมไปถึงรอยเชือกที่ถูกมัดแขนไว้เป็นเวลานาน หนึ่งในผู้เข้ารับการบำบัดบอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้รับความช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าตัวเองเหมือนตกนรกทั้งเป็น พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าทางศูนย์บำบัดฯไม่มีการตรวจเลือดหาสารเสพติดตามขั้นตอนแต่อย่างใดส่วนการใช้ชีวิตในแต่ละวันก็มีสภาพเหมือนติดคุก ได้ทานข้าวแค่วันละ 1 มื้อ ส่วนการบำบัดต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี3 เพื่อลุกขึ้นมาสวดมนต์ แต่หากเสียงสวดมนต์ดังไม่พอหรือไม่ถูกใจเจ้าหน้าที่ ผู้บำบัดก็จะถูกลงโทษโดยการไม่ให้รับประทานอาหารเช้า พอมีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ก็จะถูกปกปิดข้อมูล และรายงานกลับไปว่าไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด


ด้านทนายไพศาล ระบุว่า จากพฤติการณ์ของศูนย์บำบัดแห่งนี้ ถือว่าเข้าข่ายในความผิดฐานค้ามนุษย์ เนื่องจากมีการทำเป็นขบวนการตั้งแต่การจัดหาผู้บำบัด, การแนะนำพาตัวไปบำบัดรักษา, การเรียกรับเงิน และเรียกรับผลประโยชน์ , การกักขังทรมาน ทุบตีทำร้ายร่างกาย, แม้ว่าศูนย์บำบัดแห่งนี้จะเปิดบริการมากว่า 20ปีแล้วก็ตาม แต่จากการตรวจสอบพบว่าเพิ่งจดทะเบียนเมื่อปี 2555 ที่สำคัญคือล่าสุดพบข้อมูลว่ามีผู้เสียชีวิตในสถานบำบัดก่อนหน้านี้ 2-3 ราย และเหตุการณ์นั้นไม่มีการชันสูตรพลิกศพว่าเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความ และยังแจ้งเอาผิดในข้อหาค้ามนุษย์กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด

สำหรับบรรยากาศที่บริเวณโรงพยาบาลสนาม ภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี พบว่าตลอดทั้งวันมีบรรดาครอบครัวของผู้เข้ารับการบำบัดเดินทางมารับผู้บำบัดกลับบ้านแล้วกว่า 200 คน คงเหลือผู้บำบัดอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ประมาณ 50 คน  แบ่งเป็นผู้บำบัดที่ยังติดต่อครอบครัวไม่ได้, ผู้บำบัดที่ครอบครัวไม่พร้อมรับตัวกลับบ้าน, รวมถึงกลุ่มผู้บำบัดที่มีอาการป่วยจิตเวชอีกประมาณ 20 ราย โดยกลุ่มที่เหลือนี้จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับตัวไปบำบัดรักษาต่อไป
ขณะที่ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งผู้บำบัดทุกคน

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ