จับนักข่าวนอกรีต เรียกเงินเจ้าของรถดั้ม

เหตุการณ์ที่ตำรวจสภ.เมืองเชียงราย ได้ทำการซ่อนแผนร่วมกับผู้ประกอบการรถดั้ม จับกุมตัวนายปัญธิพงศ์ ศิริโชคธนากูล หรือ นายปัญญา หรือ บิ๊กบัง นักข่าวท้องถิ่น ที่ร้านอาหารพื้นเมืองริมกก เชียงราย โดยนายบิ๊กบังได้เรียกรับเงินจากเจ้าของรถดั้มรายละ 20,000 บาท และบ่อดินเจ้าละ 100,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ลงข่าวรถดั้มขนดิน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จนผู้ประกอบการทนไม่ไหวเข้าแจ้งความกับตำรวจ 

รวบชายอ้างเป็นสื่อ เรียกเงินผู้ประกอบการขนดิน

รวบมือปืน "นักฆ่าบัญชีดำ" หนีคดีนาน12ปี

ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีผู้มาขอประกันตัวนายบิ๊กบัง และในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.)จะครบ 48 ชั่วโมง ตำรวจจะนำตัวนายบิ๊กบัง ไปฝากขังต่อที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย

น.ส.สุธิษา ศรีบุญ เจ้าของบ่อดิน เล่าให้ฟังถึงพฤติกรรมของนายบิ๊กบังว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา นายบิ๊กบัง โทรศัพท์มาหา พร้อมนัดเจรจานัดหมายที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในเขตเชียงราย เพื่อขอรับเงินจำนวน 100,000 บาท แลกกับการไม่ลงข่าวโจมตีบ่อดิน ซึ่งนายบิ๊กบังได้เจรจากับพ่อของตน  แต่พ่อปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน วันต่อมานายบิ๊กบัง ก็ลงข่าวโจมตีทันที ทำให้ผู้ประกอบการต้องหยุดชะงัก การก่อสร้างอาคาร บ้านเรือน หรือสำนักงาน และบ้านจัดสรร ทุกอย่างต้องหยุดหมด   ทำให้หลายฝ่ายได้รับความเสียหาย 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ เพื่อหาข้อเท็จจริงว่ารถดั้มขนดิน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจริงหรือไม่ โดยได้สอบถามกับชาวบ้านในพื้นที่ที่รถดั้มใช้วิ่งเป็นทางผ่าน

ด้าน นายประสงค์ คำเชื้อ อาศัยอยู่ที่บ้านร่องก่อ ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย เล่าว่าเส้นทางหน้าบ้านตนเอง มีรถดั้มวิ่งผ่านทุกวัน เกิดฝุ่นถนนเสียหาย วิ่งกันตั้งแต่เช้า จนถึง 17.00 น.ของทุกวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พฤติกรรมของนายบิ๊กบัง มักอ้างตนเป็นผู้สื่อข่าวทีวีช่องหนึ่ง และมักจะทำข่าวในลักษณะโจมตีและเรียกรับผลประโยชน์ เช่นในพื้นที่อำเภอเชียงคำ และอำเภอเมืองพะเยา ซึ่งสถานประกอบการหลายแห่งถูกรีดทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายบิ๊กบังมีคดีติดค้างอยู่ที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ 3 คดี จังหวัดพิษณุโลก 1 คดี