เผือกร้อน ปล่อย "เสี่ยโจ้" ผบ.ตร.จี้สอบ รายงานภายใน 3 วัน "ผบช.ภ.9" รับ ค้นไม่เจอหมายจับ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผบ.ตร.จี้ภาค 9 สอบให้เคลียร์ ปมหมายจับล่องหน ปล่อย "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" ลอยนวล ผบช.ภ.9 รับไม่พบหมายจับ จี้หาต้นตอ บกพร่อง หรือจงใจ

จากกรณี "เสี่ยโจ้" นายสหชัย เจียรเสริมสิน นักธุรกิจผู้กว้างขวางในจ.ปัตตานี ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุม เมื่อ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นำตัวส่งพนักงานอัยการ ในความผิดฐานฟอกเงินจากการค้าน้ำมันเถื่อน อัยการสั่งไม่ฟ้องและปล่อยตัว โดยตำรวจอ้างว่าตรวจสอบในสารบบไม่มีหมายจับอื่น ทั้งที่เสี่ยโจ้ มีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานีความผิดเกี่ยวกับเอสารและดวงตรา ต่อมาศาลจังหวัดปัตตานี ชี้แจงยืนยันมีหมายจับ

ศาลปัตตานี แจงปมหมายจับล่องหน ปล่อย "เสี่ยโจ้" นักธุรกิจใหญ่ ลอยนวลอีกครั้ง

"เสี่ยโจ้" เผ่นข้ามแดน ผบช.ก.เชื่อ ซุก"บิ๊ก" เพื่อนบ้าน แจงเหตุจับได้แล้ว ทำไมต้องปล่อยลอยนวล

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีหนังสือสั่งการวิทยุในราชการด่วนที่สุด ถึง พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ตรวจสอบจัดการเรื่องการปล่อยตัว "เสี่ยโจ้" แล้ว

ผบ.ตร.สั่งการว่า ตามที่ปรากฎข่าวเผยแพร่ตามสื่อมวลชนต่าง กรณีนายสหชัย หรือโจ้ เจียรเสริมสินได้รับการปล่อยตัวไปหลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยมีการให้ข้อมูลว่า เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมนายสหชัย หรือโจ้ ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 60/2564 ลง 19 ก.พ.64 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน

"แต่เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจส่งตัวนายสหชัย หรือโจ้ แก่พนักงานอัยการแล้ว นายสหชัย หรือโจ้ ได้รับการปล่อยตัวไป โดยที่ไม่ได้ส่งตัวนายสหชัย หรือโจ้ เพื่อไปบังคับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดปัตตานี ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดเกี่ยวกับดวงตรา เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจ ตรวจสอบในสารบบแล้วพบว่ามีหมายจับนายสหชัยหรือโจ้ ของศาลจังหวัดสงขลาเพียงหมายจับเดียว โดยไม่พบหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี เจ้าหนักงานตำรวจจึงมิได้นำตัวนายสหชัย หรือโจ้ ส่งไปยังศาลจังหวัดปัตตานี"

ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.64 สำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกข่าวแจกสื่อมวลชนยืนยันว่าศาลจังหวัดปัตตานีส่งหมายจับ นายสหชัย หรือโจ้ เจียรเสริมสิน ให้ ผบก.ภ.จว.ปัตตานีและผกก.สภ.บ้านแหลม
ตั้งแต่ 9 ต.ค.57 นั้น

"จากกรณีดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ จึงให้ ผบช.ภ.9 ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว แล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน  หากตรวจสอบแล้วปรากฏว่ามีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัยหรือ มีพฤติการณ์การกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดอาญา ให้ ผบช.ภ.9 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทันทีจึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง"หนังสือคำสั่งดังกล่าวระบุ" ผบ.ตร.สั่งการ

ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ผบช.ภ. 9 เผยกับ พีพีทีวี นิวมีเดีย ว่า ได้รับคำสั่งของผบ.ตร.แล้ว ตนสั่งการให้ พล.ต.ต.วัลลพ จำนงค์อาษา รอง ผบช.ภ.9 ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ว่ามีข้อบกพร่องผิดพลาด ที่จุดใด ใครเกี่ยวข้องบ้างและรีบรายงานภายใน  3 วัน

ผบช.ภ.9 เผยว่า หมายจับของนายสหชัย เป็นหมายจับของศาล ไม่ใช่หมายจับคดีอาญาของตำรวจ เมื่อศาลฯชี้แจง แจ้งว่าได้ส่งหมายจับดังกล่าวให้ตำรวจแหล้ว ตามวันวลาก็ต้องไปตรวจสอบว่ามีการรับเอกสารถูกต้องหรือไม่ เมื่อรับมาแล้ว นำเข้าสู่ระบบ สารบบหมายจับตารมระเบียบขั้นตอนหรือไม่

พล.ต.ท.นันทเดช กล่าวว่า ปกติเมื่อมีการออกหมายจับ (หมายจับที่ตำรวจขออนุมัติศาล) จะนำเข้าระบบ CRIME ฐานข้อมูลของตำรวจโดยอัตโนมัติ สามารถสืบค้นได้ในระบบ CRIME ส่วนหมายจับที่ออกโดยศาล หมายจับตัวมาลงโทษตามคำพิพากษา นั้นศาลยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำ MOU เชื่อมโยงข้อมูลหมายจับกับตำรวจ เมื่อปี 2563  ปัจจุบันข้อมูลเชื่อมโยงกันหมดแล้วตรวจสอบได้อัตโนมัติเช่นกัน แต่ข้อมูลก่อนหน้านั้นอาจยังไม่นำเข้าระบบตรวจสอบหมายจับ ซึ่งกรณีนายสหชัยก็เป็นหมายจับในปี 2557 ช่วงนั้นยังไม่เชื่อมต่อข้อมูลอัตโนมัติ ตรงนี้อาจเป็นช่องว่าง จึงสั่งการไปตรวจสอบแล้วว่าเหตุใด ไม่มีข้อมูลหมายจับของเสี่ยโจ้ เหตุใดไม่ทำการลงระบบข้อมูลให้เรียบร้อยครบถ้วน บกพร่อง หรือจงใจ อย่างไร

ผบช.ภ.9 ยอมรับว่าเมื่อตรวจสอบฐานข้อมูลหมายจับในปัจจุบัน ก็ไม่มีหมายจับของ "เสี่ยโจ้" 

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ