พ่อเลี้ยงเด็กชายวัย 6 ขวบ อ้างว่าที่ลงมือทำร้ายลูกชาย เพราะว่า คืนเกินเหตุประมาณเที่ยงคืน ตนเองและลูกเลี้ยงเข้ามานอนในรถตามปกติ แต่กำลังมีอารมณ์หงุดหงิด เพราะลูกเลี้ยงเซาซี้อยากจะขอไปจับปูด้วย ทำให้โมโหจับลูกเลี้ยงเหวี่ยงใส่ล้อรถยนต์จนบาดเจ็บ
ผู้ต้องหายืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายลูกเลี้ยงจนเสียชีวิต แต่ด้วยเด็กที่ตัวเล็ก อาจจะพลั้งมือไปบ้าง ส่วนเหตุผลที่ไม่ยอมรับตั้งแต่เพราะกลัวความผิด และยืนยันว่า แม่เด็กไม่มีสวนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในครั้งนี้
เด็ก 6 ขวบตายปริศนาในรถ-แฉครอบครัวเชื่อมนต์ดำ
เจาะข้อมูลการระบาด"โอมิครอน"เมืองพัทยา
ขณะที่ตำรวจยืนยันว่า ผู้ต้องหาติดยาเสพติด และมักมีอารมณ์ฉุนเฉียวใส่ลูกเลี้ยงที่ชอบมาเซ้าซี้ เลยทำร้ายร่างกายเด็กจนเสียชีวิต ส่วนที่รับสารภาพ ก็เพราะจำนนต่อหลักฐาน
กว่า 6 ชั่วโมงที่เด็กชายวัยเพียง 6 ขวบ ต้องทุกข์ทรมานอยู่ในรถเก๋งคันนี้เพียงลำพัง ไม่มีแม่หรือใครมาปลอบโยน ถือว่าเป็นสิ่งโหดร้ายมากสำหรับเด็กอายุเพียงเท่านี้
นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนบ้านยืนยันกับทีมข่าวตั้งแต่เมื่อวานนี้ว่า ตั้งแต่เด็กย้ายมาอยู่กับแม่ที่นี่เกือบ 1 ปี ไม่เคยมีความสุข กลัวมีแต่บาดแผลเต็มตัวทุกวัน จากตอนแรกแขนขาปรกติ ก็ถูกตีจนขาเป๋ ซ้ำร้ายครอบครัวยังสร้างเรื่องสร้างราวว่า เป็นเพราะเด็กถูกคุณไสยแบบอินเดีย เลยจำเป็นต้องขังเด็กให้นอนในรถเก๋งคันนี้ทุกคืน เป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปี
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาพ่อเลี้ยง ว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และจะสอบในเชิงลึกเพิ่มเติม ว่ามีการทรมานเด็กก่อนเสียชีวิตหรือไม่ และมีเจตนาในฆ่าเด็กหรือไม่ ส่วนกรณีที่ แม่ของเด็กไม่กล้าที่จะแจ้งเรื่องราวการ ทารุณกรรมของพ่อเลี้ยงนั้น น่าจะมาจากการอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยา และต้องพึ่งพาสามีจึงปิดบัง เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวตนเอง
ทั้งนี้เมื่อแม่เด็กให้ความร่วมมือ ในการยืนยันพฤติกรรมสามีใหม่ ขณะนี้ จึงไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา แต่จะนำศพเด็กไปผ่าพิสูจน์ก่อน จนกว่าจะได้พยานหลักฐานยืนยัน ว่าสาเหตุการตายเกิดจากอะไร หากเกี่ยวข้องกับใครอีก ตำรวจจะไม่ละเว้น
ผู้การจังหวัดตราด ยังฝากขอบคุณเพื่อนบ้านที่ช่วยกันเป็นเบาะแสในเรื่องนี้ ให้ข้อมูลเรื่องเด็กถูกทำร้ายจนนำไปสู่การจับกุม ส่วนยายของเด็กที่พยายามโยงไปถึงเรื่องมนต์ดำ ไสยศาสตร์ ทางตำรวจยังต้องรอพยานหลักฐาน เป็นผลชันสูตรเพิ่มเติมอย่างที่บอก ทั้งนี้ ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
คดีนี้ ต้องบอกว่าเป็นคดีสลด สะเทือนใจ เกี่ยวเนื่องกับความรุนแรงในครอบครัวจนเราต้องปกปิดข้อมูลเหยื่อทั้งหมด นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชม คือการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ที่ยืนกรานต้องนำร่างเด็กไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตให้ได้ โดยใช้ทั้งหลักกฎหมาย หลักรัฐศาสตร์เจรจากับผู้นำศาสนา จนสามารถนำร่างน้องไปถึงมือแพทย์นิติเวช และเรียกร้องความเป็นธรรม จับคนกระทำผิดได้ในที่สุด