พลิกแฟ้มคดี "รปภ.มนตรี" ขืนใจเด็ก14 ขวบ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตำรวจคุมตัวนายมนตรี ใหญ่กระโทก ผู้ต้องหาคดี รปภ.ข่มขืนลูกบ้านคอนโดสอบปากคำต่อเนื่อง ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลพรุ่งนี้ เบื้องต้นเจ้าตัวใช้สิทธิ์ไม่เดินทางไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ

จังหวะที่พนักสอบสวนเบิกตัวนายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้า รปภ.ผู้ต้องหาคดีข่มขืนลูกบ้านคอนโดแห่งหนึ่งมาสอบปากคำ จังหวะนี้ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามผู้ต้องหาว่าอยากจะพูดอะไร หรืออยากจะขอโทษใครหรือไม่ นายมนตรีจึงบอกว่าขอโทษครอบครัวและผู้เสียหาย และปฏิเสธจะตอบคำถามผู้สื่อข่าว

เบื้องต้นนายมนตรีปฏิเสธจะเดินทางไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบจึงใช้วิธีชี้ภาพประกอบแทน

คุมตัวรปภ.หื่นขืนใจลูกบ้าน เข้าสภ.วังน้ำเย็น

เผยคลิปนาทีรปภ.หื่น บุกขืนใจลูกบ้าน

ซึ่งตลอดการคุมขังเมื่อคืนนี้ตำรวจบอกว่า นายมนตรีไม่มีอาการเครียดอะไร มีเพียงการนอนไม่ค่อยหลับจากการแปลกที่เท่านั้น

ขณะที่วันนี้พี่ชายของนายมนตรีได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหา และร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย พี่ชายนายมนตรีบอกว่า ที่มาวันนี้เพราะแม่เครียด ถ้าตัวเองไม่มา แม่ก็ต้องมาเป็นธุระจัดการเอง ซึ่งนายมนตรีให้การรับสารภาพ​ทุกอย่าง และฝากมาขอโทษผู้เสียหายและบริษัท​ที่ทำให้เดือดร้อน โดยทางครอบครัวจะปล่อยให้คดีเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย และจะไม่ยื่นประกันตัวผู้ต้องหา

ช่วงสุดท้ายของเสียงเมื่อสักครู่นี้ พี่ชายได้พูดถึงเรื่องที่ดินทำกิน คือพี่ชายพยายามจะอธิบายว่า สาเหตุที่เกิดเรื่องสะเทือนใจแบบนี้ ก็เพราะชาวบ้านหลายคนประสบปัญหาไม่มีที่ดินทำกิน ครอบครัวต้องผลักดันให้ลูกหลานมาทำงานในเมือง หลายคนไม่รู้จะทำกินอะไรก็หันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย สุดท้ายก็อาจจะไปก่อเหตุเหมือนน้องชายของตน ดังนั้นน้องชายตัวเองคงไม่ใช่คนแรก และคนสุดท้าย ถ้าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่เข้ามาจัดการเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน

ล่าสุดนายมนตรียังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และเตรียมตรวจร่างกาย ก่อนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรีก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้ ( 8 ม.ค.) ใน 2 ข้อกล่าวหา คือ ข่มขืนกระทำชำเราและบุกรุกเคหะสถานยามค่ำคืน

เราลองมาขยายความประเด็นเรื่องที่ชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกิน จึงต้องมาขวนขวายหางานทำต่างถิ่น จนบางครั้งหลงผิดไปเสพยาก็ดี หรือก่อคดีอาชญากรรมก็ดี ต้องบอกว่าอาจเป็นเพียงข้ออ้างบางส่วน เพราะไม่ใช่ว่าคนอื่นๆ จะมีพฤติกรรมเหมือนกับนายมนตรี ที่พอไม่มีที่ดินทำกินแล้ว ต้องมากลายเป็นอาชญากร

 แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัด คือ พฤติกรรมก่อนที่นายมนตรีจะเข้ากรุงเทพมานั้น เจ้าตัวเคยก่อคดีในปี 2556 และเป็นการข่มขืนเด็กอายุเพียง 14 ปี วันนี้ ทีมข่าวพีพีทีวี ได้ตรวจสอบข้อมูลจนแน่ชัด เราย้อนไปดูพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้

ข้อมูลที่เราได้มานี้ ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความชัดเจน เพราะเป็นบันทึกคดีเก่าที่ระบุพฤติกรรมของนายมนตรี  ในช่วงปี 2556 เขาเคยก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงวัยเพียง 14 ปี

ย้อนไปวันที่ 30 สิงหาคม 2556 เวลา 7 โมงเช้า ผู้ต้องหารายนี้ ที่ช่วงนั้นมีอายุ 33 ปี บุกเข้าไปก่อเหตุเด็กหญิงที่มีศักดิ์เป็นญาติกันถึงในบ้านพัก พอพ่อเหยื่อสาวกลับบ้านมารู้เข้า จึงพาลูกเข้าแจ้งความที่โรงพัก วังน้ำเย็น ในช่วงเย็นวันเดียวกัน

ต่อมาตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมแจ้งข้อหา บุกรุก กระทำชำเราเด็ก และกักขังหน่วงเหนี่ยว มีการส่งฟ้องดำเนินคดี ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี 6 เดือน และส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 และได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 รวมติดคุกจริงประมาณ 3 ปี 5 เดือน

จากนั้น นายมนตรีได้ออกจากเรือนจำ และได้รับใบอนุญาตการทำงานเป็น รปภ.เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ทั้งๆ ที่การต้องโทษคดีเกี่ยวกับเพศถือเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ในการทำงานเป็น รปภ. กระทั่งนายมนตรีมาก่อเหตุร้ายซ้ำรอยขึ้นอีก โดยอ้างว่าเกิดจากการเสพยา เลยมีอารมณ์ทางเพศก่อเหตุข่มขืนเหยื่อ

อีกประเด็นสำคัญที่ยังต้องตามต่อ คือใบอนุญาตที่นายมนตรีได้รับ โดยฝ่ายอำนวยการ 5 กองบัญชาการตำรวจนครบาล นั้นออกให้ ออกมาได้อย่างไร มีความบกพร่องในจุดไหน เรื่องนี้พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาแล้ว เพราะเรื่องนี้ สังคมมีคำถามสำคัญ คือยังมี รปภ.รายอื่นๆ อีกหรือไม่ ที่มีลักษณะต้องห้ามเหมือนนายมนตรี แล้วได้รับใบอนุญาตให้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ