พ่อค้าลูกชิ้นยัน ตร.6 นายทำเกินกว่าเหตุ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




มีเรื่องมีราวเกิดขึ้น เมื่อพ่อค้าขายลูกชิ้น ขับมอเตอร์ไซค์พร้อมหลานไปซื้อลูกชิ้นเตรียมนำไปทอดขาย ปรากฏ ขากลับ เจอตำรวจ 6 นาย ขับตามมาประกบ และทำร้ายร่างกายถึงขั้นแขนหัก ซ้ำยังถูกตั้งข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เข้าไปนอนคุก 1 คืน และต้องไปเสียค่าปรับที่ศาลอีกวันนี้ผู้เสียหายพร้อมทนายได้เดินทางเข้าแจ้งความแล้ว มั่นใจหลักฐานที่มีเอาผิดตำรวจทั้ง 6 นายได้ กรณี ทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งล่าสุด ตำรวจได้เผยคลิปที่ติดหน้าอกตำรวจขณะที่เกิดเหตุ

คลิปจากกล้องหน้าอกของตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ เป็นภาพระหว่างผู้เสียหายได้เปิดเบาะรถ นำป้ายทะเบียน และเล่มทะเบียนรถขึ้นมาให้ตำรวจดู จากนั้นมีการพูดคุยกันสักพัก ก่อนที่จะขึ้นรถในลักษณะกำลังจะสตารท์รถ จากนั้น ตำรวจได้ลากตัวไปล็อกคอ ล็อกแขน จนผู้เสียหายแขนหัก

เรื่องราวนี้เกิดตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มกราคม เวลา 23.55 น. นายสหรัช ยิ่งตระกูล หรือชายที่ถูกทำร้ายในคลิป เล่าว่า ตนเองกับหลานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อลูกชิ้นทอดที่ตลาดสมบัติ 

คนใช้รถอ่วม! พรุ่งนี้น้ำมันขึ้นราคาต่อเนื่อง กลุ่มเบนซินพุ่ง 50-60 สต.

งวดนี้ หวยออก 17 กุมภาพันธ์ 2565!

 

ระหว่างทางกลับ ถึงหน้าปั้มน้ำมันบางจาก ถ.พิบูลสงคราม อำเภอเมืองนนทบุรี ตำรวจได้ขี่รถมาตีคู่ และเรียกตนและหลานให้ลงจากรถ จากนั้นขอค้นตัว พร้อมตรวจปัสสาวะ ก็ยินยอมให้ตรวจ แต่ตอนตรวจ ได้ตรวจแยกกับหลาน ซึ่งหลานเป็นผู้พิการทางสมอง ก็กลัวตอบเจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่อง ขอให้ตำรวจพาหลานมาตรวจพร้อมกัน แต่ตำรวจไม่ยอม รุมถามชื่อหลานกัน หลานก็ตอบไม่ได้

  การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่รถจักรยานยนต์ของตนไม่ติดป้ายทะเบียน แต่ก็มีอยู่ในเบาะรถ จึงหยิบให้ตำรวจดู จากนั้นตำรวจขอตรวจบัตรประชาชน ได้บอกว่า มาแค่นี้เอง เลยไม่ได้เอามา อยู่ที่บ้าน ก็คิดว่าตำรวจจะปล่อยกลับแล้ว จึงเดินไปขึ้นรถ เพื่อจะขี่กลับบ้าน แต่กลับถูกตำรวจรุมจับตบหน้า ล็อกคอและแขน จนแขนหักดังกล่าว จากนั้นเมื่อตำรวจเห็นว่าตนเองแขนหักก็ได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวตนส่งโรงพยาบาลหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลตำรวจก็พาไปที่สภ.เมืองนนทบุรี ไปทำสำนวนว่า ตนขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ จนต้องนอนห้องขัง 1 คืน และต้องไปจ่ายค่าปรับที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งตนรู้สึกแย่มากทำงานก็ไม่ได้เนื่องจากแขนเจ็บขายของลำบากแม่ก็ป่วยช่วยเหลือตังเองก็ยังไม่ได้

นายนิฐิพงศ์ ยิ้มศิริ แฟนหนุ่ม เผยว่า ได้ปรึกษากับ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง แล้ว จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด เนื่องจาก การกระทำของตำรวจเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ก่อนหน้านี้ได้ไปเรียกร้องขอเงินเยียวยา จากผู้กำกับ แต่ผู้กำกับบอกว่าให้ไปเคลียร์เรื่องคดี แต่เมื่อไปถามพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนถามว่า จ่ายค่าปรับไปหรือยัง ถ้าจ่ายไปแล้ว เป็นการยอมรับว่ากระทำผิดไปแล้ว แล้วให้คิดดีๆก่อน ว่าจะแจ้งความกับตำรวจ เอาผิดตำรวจด้วยกันจริงหรือ ส่วนตัว ไม่ได้ต้องการเงินช่วยเหลือเยียวยา แต่ตอนนี้ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง บอกว่าเบื้องต้นหลังจากดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตนเองเห็นว่าทางฝั่งของผู้บาดเจ็บไม่ได้มีการต่อสู้ขัดขืนจึงมองว่า การที่ตำรวจทั้ง6นาย ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ โดยวันนี้ได้เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมพร้อมขอให้ทางพนักงานสอบสวนทำหนังสือส่งตัว ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่นิติเวชอีกครั้งเพื่อนำข้อมูลมาประกอบสำนวนคดี  เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลระบุเพียงว่าแขนหักเกิดจากอุบัติเหตุ

ด้านพล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ตั้งโต๊ะชี้แจง ยืนยันตำรวจเป็นไปตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างถูกต้อง เนื่องจากพบรถต้องสงสัยไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งเมื่อสอบถามชื่อนามสกุลของผู้ขับขี่กลับไม่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่จึงเป็นเหตุให้สงสัย ว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวอาจได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งตามหลักเจ้าหน้าที่ต้องตรวจยึดรถไว้ ซึ่งผู้ขับขี่ไม่ยินยอม เดินไปขึ้นรถ ก่อนบอกผู้ที่ซ้อนมาด้วย ให้กลับแท็กซี่เอง จึงเป็นเหตุให้เข้าใจว่า ผู้ร้องเรียนมีพฤติการณ์หลบหนี ทำให้ตำรวจต้องเข้าไปขัดขวางจนเกิดอุบัติเหตุทำให้แขนหัก พร้อมยืนยันว่าหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบ หากพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดจริงก็จะลงโทษ และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างแน่นอน

ส่วน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมือง จ.นนทบุรี บอกว่า ประเด็นเรื่องการชดเชยค่าเสียหายทาง ฝั่งผู้เสียหายได้ติดต่อเข้ามาหาตนเองจริง ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่า มีน้องที่สติไม่ดีและแม่สูงอายุที่ ต้องดูแล ตนเองจึงเห็นใจ และเยียวยาให้ตามหลักมนุษยธรรม แต่ต่อมาฝั่ง ผู้บาดเจ็บกลับเรียกร้องค่าเสียหายนายตำรวจ 6 คนคนละ 50,000 บาทรวมทั้งสิ้น 300,000 บาทซึ่งตนเองมองว่าเป็นจำนวนเงินที่สูง ไม่สมเหตุสมผล จึงไม่ได้เยียวยาตามคำขอ แต่ยืนยันว่าหลังจากนี้จะพิจารณาการเยียวยาอย่างสมเหตุสมผลต่อไป        

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ