เหตุการณ์ที่หมอปลาและ ชาวบ้านนับพันคนปิดล้อมกุฏิเจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนพบว่ามีหญิงสาวหลบซ่อนอยู่ใต้บันไดขึ้นชั้น 2 ของกุฏิ
ซึ่งหญิงคนดังกล่าวคาดว่าเป็นคนเดียวกับที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ว่าเดินเข้าไปในกุฏิหลายชั่วโมงและไม่ได้ออกมา ในกุฏิยังพบสุราอีกหลายขวด เสื้อชั้นในและที่คาดผมผู้หญิง ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจสาบแช่งทั้งสองคน สุดท้ายเจ้าอาวาสยอมสึก แต่ยังยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับหญิงสาว
ฉาววงการพระสงฆ์ บุกจับเจ้าอาวาสแอบมั่วสีกาในกุฏิ
แฉพฤติกรรมอดีตเจ้าอาวาส ซุกสีกา
ขณะที่ฝ่ายสีกา หลังตำรวจพาตัวหลบชาวบ้านไป ก็เก็บตัวเงียบ ทราบข้อมูลเพียงว่าเป็นแม่ค้าที่เคยมาขายมะม่วงที่วัด ช่วงที่วัดเหมามะม่วงมาขายหารายได้จ่ายค่าน้ำค่าไฟช่วงโควิด ซึ่งมีรายงานว่า มีบางสื่อได้โทรศัพท์พูดคุยกับสีกาคนดังกล่าว ซึ่งได้ชี้แจงเรื่องนี้ว่า วันเกิดเหตุแค่นำเอกสารไปให้เจ้าอาวาสการก่อสร้างในวัดไปให้เซ็น และช่วยถูพื้นจนเหงื่อออก จึงไปอาบน้ำ เป็นจังหวะที่ได้ยินเสียงคนโวยวายจึงไปหลบ
และยังยืนยันว่า เสื้อชั้นในสีฟ้าที่พบหล่นอยู่กับพื้นกุฏิไม่ใช่ของตัวเอง เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ใส่แบบนั้น พร้อมบอกว่า ขณะนั่งอยู่ใต้บันไดยังใส่เสื้อในอยู่ แต่เรื่องนี้ก็ขัดแย้งกับข้อมูลที่ทางฝ่ายหมอปลาและสื่อหลายสำนักบอกว่า ในขณะที่เข้าไปเห็นว่าหญิงสาวอยู่ในสภาพเปลือย
สีกาคนนี้ยังบอกว่า ส่วนตัวมีครอบครัวแล้ว ยืนยันไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเจ้าอาวาสในกุฏิ และหลังเกิดเหตุก็เครียดมาก เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อใส่ร้ายเจ้าอาวาส
ส่วนบรรยากาศที่วัด พบว่ากุฏิเจ้าอาวาส ถูกปิดล็อก โดยกรรมการวัดได้นำกุญแจมาล็อกเพิ่มอีกชั้น ป้องกันไม่ไห้ใครมาเปิดศาลาและกุฏิ
จากการสอบถามทราบว่า วันนี้ทางรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก จะประชุมคณะสงฆ์ภายในวัดรวมถึงจะทำการตรวจปัสสาวะภิกษุสงฆ์ภายในวัดทั้งหมด และได้เชิญไวยาวัจกรคณะกรรมการวัดประชุมสอบถามเบื้องต้นถึงบัญชี และ ทรัพย์สินของวัด
ก่อนที่จะมีการเปิดกุฏิเจ้าอาวาส และ ศาลาที่มีทรัพย์สินของวัด เพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์สินวัด รายงานต่อเจ้าคณะตำบล และ สำนักพุทธศาสนา โดยไม่ให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพ
ขณะที่ตั้งแต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาเข้ามาตรวจสอบที่วัดแต่อย่างใด