“พล.ต.ต.วิชัย” ชี้คดี “แตงโม” ไขปริศนาไม่ยาก แค่ยังไม่พบหลักฐานเอาผิด
ตร.เผยร่าง “แตงโม” จมน้ำนานเกินไป ตรวจปริมาณปัสสาวะไม่ได้
ทีมข่าว PPTV ทดลองลงเรือสปีดโบ้ท ขนาด 23 ฟุต ขนาดกำลังเครื่องไล่เรี่ยกันกับ เรือ โคบอลต์ ลำที่ “แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์” พลัดตก โดยให้ นายสมพงษ์ สุนทรพรวาที เจ้าของเรือ และเป็นคนที่พบศพแตงโมเป็นคนแรก จำลองเหตุการณ์ตามสมมติฐานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ดู ถ้าหากขับด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือประมาณ 11 กิโลน็อต ตามข้อมูลที่ปรากฏออกมา คนที่อยู่บริเวณที่นั่งท้ายเรือจะยังสามารถพูดคุยกับคนที่อยู่ด้านหน้าเรือได้
แต่เมื่อความเร็วเพิ่มไปที่ ประมาณ 40 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 22 กิโลน็อต เสียงเครื่องยนต์จะทำงานหนักขึ้น ทำให้คนที่อยู่ท้ายเรือ ไม่ค่อยได้ยินเสียงพูด ต้องตะโกนจึงจะได้ยิน
ทีมข่าวทดลองให้นายสมพงษ์ เร่งเครื่องยนต์ที่ประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และให้หักหัวเรือกระทันหัน โดยปรึกษากับนายสมพงษ์ให้ผู้สื่อข่าวอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุดและสวมเสื้อชูชีพ ซึ่งจะห่างจากจุดท้ายเรือที่มีความเสี่ยง พบว่า ผู้สื่อข่าวมีลักษณะเซเกือบตกเบาะ แต่ไม่ถึงขั้นกระเด็น
ประเด็นนี้ นาย สมพงษ์ อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจัยที่มีผลทำให้ แตงโม อาจจะพลัดตกเรือ อาจไม่ใช่แค่ความเร็วเรือเพียงอย่างเดียว แต่ประกอบกับคลื่นในวันเกิดเหตุ โดยเฉพาตอนกลางคืน คลื่นในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงมาก ถ้าหาก แตงโม ยืนอยู่ในพื้นที่ด้านในของเรือ ก็จะเซไปด้านหน้าหรือล้มลงไปกองที่พื้นเรือ แต่หากยืนอยู่ที่ท้ายเรือ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะหงายหลังพลัดตกเรือได้
สำหรับประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสงสัย เรื่องรอยช้ำ ที่หลังของ “จ๊อบ” ตามที่ทีมข่าวนำเสนอไปแล้ว ว่ามีโอกาส เป็นไปได้หรือไม่ที่จะลื่นล้มบนเรือ จนหลังไปกระแทก ได้รับบาดเจ็บ ประเด็นนี้ นายสมพงษ์ กล่าวว่า มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะ ในขณะที่กำลังค้นหา แตงโม เรือยังแล่นอยู่ในน้ำ ทำให้อาจจะเสียหลัก ไปกระแทก กับอุปกรณ์ในเรือ เช่น โต๊ะ หรือ พวงมาลัยด้านหน้าคนขับ เนื่องจากในเรือ มีอุปกรณ์ลักษณะเป็นของแข็งค่อนข้างเยอะ ไว้สำหรับให้คนโดยสารเกาะยึดในขณะเรือออกตัว
ทั้งนี้อีกคนที่พยายามพิสูจน์คำให้การของ 5 พยานที่อยู่บนเรือกับแตงโม คือ ดีเจภูมิ “ภูมิใจ ตั้งสง่า” โดยวันนี้ดีเจภูมิแผยแพร่คลิปชื่อว่า คลายข้อสงสัย พิสูจน์นั่งท้ายเรือ โดยได้นำเรือลักษณะสปีดโบ้ทแต่เป็นคนละรุ่นกับลำเกิดเหตุล่องแม่น้ำเจ้าพระยา และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านเรือกว่า 20ปี คือ คุณวีร์ จุภาวัง โดยเนื้อหาสำคัญของคลิป คือประเด็นที่ทั้งคุณวีร์ และทีมงานของดีเจภูมิ ซึ่งมีประสบการณ์ในการใช้เรือลักษณะนี้ บอกตรงกันว่า พื้นที่จำกัดของห้องน้ำเรือ ทำให้หลายครั้งถ้าแค่ปวดปัสสาวะไม่ใช่ถ่ายหนัก ก็จะมีการใช้พื้นที่ท้ายเรือจริง ถึงจะเป็นผู้หญิงก็ตาม แต่โดยปกติก็ต้องมีการแจ้งกันและคนขับก็จะชะลอ เพื่อความปลอดภัยให้คนในเรือได้ทำธุระจนเสร็จก่อน
ขณะที่ในคลิปวิดีโอของดีเจภูมิ และทีมงานยังพยายามทดสอบว่า หากมีการใช้ความเร็วต่ำและพลัดตกระหว่างปัสสาวะจะเกิดอะไรขึ้น โดยได้ทดสอบการตกของวัตถุ 2 จุด คือบริเวณท้ายเรือตรงกลางจุดติดตั้งใบพัด กับ ด้านซ้ายตามคำให้การของ 5 พยานบนเรือแตงโม และพบบางอย่างที่น่าสนใจ คือ หากมีวัตถุตกท้ายเรือตรงกลาง คลื่นที่เกิดจากเครื่องยนต์และใบพัดจะดูดและกดวัตถุนั้นอยู่ใต้น้ำ ส่วนจุดด้านซ้ายของท้ายเรือ หากมีวัตถุตกลงไปพบว่า มีความต่างจากตรงกลาง คือ จะไม่เจอดูด
โดยการทดสอบครั้งนี้ ดีเจภูมิ และทีมงานยืนยันว่า ไม่สามารถใช้ไปตัดสินความถูกผิดของใครได้ เพียงแค่ให้เห็นข้อมูลที่เกิดขึ้นเท่านั้น
