การโต้เถียงระหว่าง แก็งคอลเซนเตอร์ กับ ผู้เสียหาย (สมมติว่าชื่อ น.ส.เอ) เป็นช่วงที่ น.ส.เอ พยายามถามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลายสาย ว่า รีสอร์ตที่อ้างว่า สามีของเธอไปเปิดห้องนอนกับผู้หญิง แล้วไม่ยอมจ่ายเงิน ตั้งอยู่ที่ไหนแต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ยอมตอบ สวนกลับน.ส.เอ ว่า ให้ถามสามีเธอเอง ก่อนจะด่ากันไปมาด้วยคำหยาบคาย จน น.ส.เอ โมโห
น.ส.เอ เล่าว่า จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ เกิดขึ้น วันที่ 30 มีนาคม ขณะที่นั่งอยู่ในบ้าน มีโทรศัพท์เข้ามา เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก
ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบเขียนบทต้มตุ๋นปชช.
มุกใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สารพัดเทคโนโลยี Deepfake หลอกเงินคน
ปลายสายอ้างว่า เป็นเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง แถวคลอง 4 ปทุมธานี บอกว่า สามีของเธอไปเปิดห้องนอนกับผู้หญิงคนหนึ่ง 4 วัน ค่าห้องวันละ 1,500 บาท รวมเป็น 6,000 บาท
แต่ทั้งสามีเธอและผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ยอมจ่ายเงิน หนีกลับออกไปก่อน ปลายสาย บอกว่า พยายามติดต่อผู้หญิงคนที่มากับสามีของเธอ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงโทรมาทวงเงินที่น.ส.เอ
น.ส.เอ ยอมรับว่า ตอนที่คุยตอนแรก ในใจเชื่อไปแล้วครึ่งหนึ่งว่า อาจจะเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้เกือบทำให้บ้านร้อน บ้านแตก แต่พอตั้งสติได้ จึงขอให้ปลายสายส่งหลักฐานมา เพื่อยืนยันอีกครั้ง จากนั้นมีการแอดไลน์กับปลายสาย
ก่อนที่จะมีการส่งเอกสารรูปบัตรประชาชนของผู้หญิงคนหนึ่ง ในบัตรชื่อว่า น.ส.พรดา อายุ 43 ปี นอกจากนี้ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิด ยอดเงินที่ต้องจ่าย และ เลขบัญชีธนาคาร
น.ส.เอ บอกว่า เมื่อเห็นหลักฐานทั้งหมด เธอรู้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่เรื่องจริง และน่าจะเป็นแก็งคอลเซนเตอร์เพราะหลักฐานที่ส่งมาไม่สมเหตุสมผล เช่น ผู้หญิงในรูปที่ดูสูงอายุเกินกว่าจะเป็นหญิงขายบริการ
ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดก็ดูไม่ออกว่าเป็นใคร รวมถึงเมื่อตรวจสอบพบว่า เบอร์ที่โทรมา โทรตรงมาจากประเทศเวียดนาม ส่วนวันที่อ้างว่าเป็นวันที่สามีเธอไปเปิดห้อง อยู่กับผู้หญิงอื่น ก็เป็นวันที่สามีของเธออยู่ที่ทำงาน ที่สำคัญ ที่ทำงานของสามีเธออยู่ที่สีลม หากจะไปเปิดห้องกับผู้หญิง น่าจะไม่ต้องไปไกลถึงจ.ปทุมธานี ประกอบกับเชื่อมั่นในตัวสามีตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเชื่อว่า สามีไม่น่าจะต้องเสียเงินซื้อบริการคนอายุเยอะขนาดนี้ หรือถ้าหากจะเสียเงินก็ควรจะต้องเป็นหญิงที่สวยกว่านี้
สำหรับแก็งคอลเซนเตอร์ที่โทรมาหลอกผู้เสียหายรายนี้ พบว่า ใช้โทรศัพท์ 2 เบอร์โทร ตรวจสอบพบ เป็นเบอร์ที่ปรากฎอยู่ในเฟสบุ๊คของคนเวียดนามที่ขายของออนไลน์
ทีมข่าวลองให้ผู้เสียหายโทรย้อนกลับไปทั้ง 2 เบอร์ พบว่า เบอร์แรกสายไม่ว่าง ลักษณะเหมือนปลายสายถูกบล็อกเบอร์ไปแล้ว ส่วนเบอร์ที่ใช้โทรเข้ามาล่าสุดไม่มีคนรับสาย
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้เสียหายเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.พระประแดง สมุทรปราการ หลังเมื่อวานนี้ แก็งคอลเซนเตอร์รายเดิมโทรมาด่าเธอ เพราะถูกคนโทรศัพท์เข้าไปหาเป็นจำนวนมาก หลังมีโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราว พร้อมทั้งยังข่มขู่ ให้ดูแลลูกให้ดี แต่ปลายสายพูดไม่ชัดว่า รูปลูก หรือ ลูก จึงกังวลว่า จะนำข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปของลูกไปหลอกคนอื่นต่อ
ผู้เสียหายคนนี้ยังอยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ เพราะเรื่องสามี ภรรยา เป็นเรื่องใกล้ตัว อาจมีคนหลงเชื่อโอนให้ก่อนแล้วค่อยมาเคลียร์กับสามีทีหลัง หรืออาจจะทำให้คู่สามีภรรยาที่ระหองระแหงกันอยู่แล้วถึงขั้นแตกหักได้