"หมอปลา"ขอขมาหลวงปู่แสง-ป้องนักข่าว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีกระแสตีกลับทีมงาน "หมอปลา" พานักข่าวบุกกุฏิ หลวงปู่แสง ล่าสุด หมอปลาและทีมงานทำพิธีขอขมากรรมต่อหน้ารูปหลวงปู่แสงที่บ้านแล้ว โดยหมอปลายืนยันไม่ได้จัดฉากสร้างหลักฐาน พร้อมออกมาปกป้องนักข่าวสาวช่องหนึ่งที่กำลังถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยย้ำว่าจะไม่ขอร่วมงานกับช่องดังกล่าวอีก

วันนี้ 14 พ.ค. 2565 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พร้อม น.ส.วรภัสรณ์ ฤทธิธนไพบูลย์ หรือน้ำฟ้า และทีมงานนำพานดอกบัว พานธูปเทียน และบายศรีขอขมาต่อหน้ารูปหลวงปู่แสง โดยมี ทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร และ ทิดสมปอง นครไธสง ร่วมนำกล่าวบทขอขมาด้วย

หลังจบพิธีหมอปลา แถลงข่าวกับสื่อมวลชนยอมรับว่าก่อนลงพื้นที่ไม่รู้เรื่องอาการป่วยของหลวงปู่มาก่อน ซึ่งวันนี้ตั้งใจจัดพิธีขอขมาขึ้นที่บ้านตัวเอง เพราะลูกศิษย์และนักการเมืองบางคนไม่ยอมให้ทีมงานตนเองเข้าในพื้นที่พำนักของหลวงปู่ จึงหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยวิธีนี้

นักข่าวสาวกราบขอขมา "หลวงปู่แสง"

“หมอปลา"รับส่งนักข่าวสาวไปพบ“หลวงปู่แสง”หวังหาหลักฐานพิสูจน์ข้อร้องเรียน

แต่หากหลังจากนี้ลูกศิษย์อยากให้เข้าขอขมาหลวงปู่ถึงที่ก็ยังยินดีที่จะไปด้วยใจบริสุทธิ์

ส่วนการบุกเข้าไปในพื้นที่กุฎิหลวงปู่แสง หมอปลายืนยันเพราะก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายมาร้องเรียน 2 คน พูดตรงกันแต่ไม่มีหลักฐาน หมอปลาจึงใช้ให้ทีมงานเข้าไปสังเกตการณ์ก่อน  จนกระทั่งครั้งที่ 2 ทีมงานเกิดความกังวล หมอปลาจึงวานให้นักข่าวสาวช่องหนึ่งไปเป็นเพื่อน ซึ่งนักข่าวสาวไม่ได้รู้เรื่องด้วย แต่พอไปถึงพระกลับเรียกนักข่าวคนนั้นเข้าไปจึงปรากฎเป็นภาพตามคลิป ยืนยันว่าไม่ได้จัดฉากวางแผนสร้างคลิปหลักฐานเท็จกับนักข่าวสาวอย่างที่เป็นกระแสดรามา

 พร้อมเปิดเผยด้วยว่าก่อนหน้านี้ มีผู้บริหารสังกัดเดียวกับนักข่าวสาวพยายามติดต่อมาเพื่อขอให้หมอปลาบอกว่าร่วมมือกับนักข่าวช่องอื่นๆด้วย เพื่อจะให้ช่องอื่นมีมาตรการลงโทษให้เหมือนๆกัน ซึ่งหมอปลายืนยันว่าทั้งหมดนักข่าวไม่รู้เรื่อง และการลงโทษให้ออกจากงานเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไป หลังจากนี้หมอปลาจะไม่ขอร่วมงานกับช่องดังกล่าวอีก

หมอปลาบอกว่า นักข่าวที่ถูกออกให้ออกจากงาน เบื้องต้น ตนเองได้โทรสอบถาม เรื่องของรายได้ เพื่อที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดในระหว่างที่ยังหางานไม่ได้ รวมทั้งจะหางานให้ แต่นักข่าวคนนั้น ขอเก็บตัวสักระยะ เพราะรู้สึกเจ็บปวด เหมือนกับถูกตบกลางสี่แยกแล้วทิ้งไว้ตรงนั้น

ขณะที่การเดินหน้าไล่จับอลัชชี พระนอกรีต หมอปลาบอกว่าจะขอยุติบทบาทสักระยะ และจะรอดูว่าใครมาทำหน้าที่นี้แทนตัวเอง

 ส่วน นายไพรวัลย์ ที่วันนี้เดินทางมาร่วมนำกล่าวในพิธีขอขมาหลวงปู่แสงบอกว่า การที่หมอปลาตั้งใจจะปราบอลัชชี พระนอกรีตนั้น ไม่ได้ถือว่ามีความผิดหรือเป็นบาปตามหลักพระพุทธศาสนา แต่มองว่ามีโทษล่วงเกิน ที่สามารถขอขมาได้ ซึ่งตนเองเห็นถึงความตั้งใจของหมอปลาในการเปิดโปงสิ่งที่ไม่ดีในพระพุทธศาสนา และมองว่าหากองค์กรทางศาสนาเข้มแข็งและสามารถแก้ไขปัญหาได้ คนคงไม่พึ่งหมอปลา

นายไพรวัลย์ บอกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นสองประเด็นสำคัญที่ควรมีการตรวจสอบ คือเรื่องการใช้งานพระผู้ใหญ่ แสวงหาผลประโยชน์ และเรื่องการจัดการปัจจัยที่มีญาติโยมตั้งใจบริจาค ซึ่งส่วนนี้หลวงปู่แสงไม่มีความสามารถที่จะจัดการได้แล้ว พร้อมตั้งคำถามว่าแล้วใครที่เป็นคนดูแลเงินส่วนนี้อยู่ และควรจะมีการตรวจสอบหรือไม่

ล่าสุดนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เตรียมร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนายโสธร นายอำเภอป่าติ้ว และตำรวจ ที่ร่วมกับหมอปลาและสื่อมวลชน บุกเข้าไปก้าวล่วงหลวงปู่แสง ซึ่งมีชาวเน็ตหลายคนเข้าไปแสดงความเห็นว่า ครั้งนี้ขอให้นายศรีสุวรรณ เรียกร้องความเป็นธรรมคืนให้หลวงปู่แสงด้วย

ขณะที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ระบุว่า พฤติกรรมของหมอปลาในการพานักข่าวไปบุกวัดของหลวงปู่แสง ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายข้อใดเลย รวมถึงเรื่องการบุกรุก เพราะเข้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน ไม่ได้ข่มขู่คุกคาม ใครที่บอกว่าผิดมาตราต่างๆ ก็ให้ลองไปแจ้งความดู

ส่วนเรื่องที่ถูกวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ทนายเดชาระบุว่า “ความไม่เหมาะสม” เป็นคนละเรื่องกับการทำผิดกฎหมายอาญา ไม่เหมาะสมไม่ได้แปลว่าจะผิดกฎหมาย

สำหรับกรณีไล่ออกนักข่าวสาว ที่มีการระบุชื่อนักข่าวคนดังกล่าวลงในเอกสาร ว่าทำได้หรือไม่นั้น ทนายเดชา มองว่าอาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ถ้าลูกจ้างเสียหายก็สามารถไปแจ้งความได้

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ