รวบอดีตทหารเกณฑ์หลอกเด็ก 13 ปี เข้าโรงแรมข่มขืน
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2565 ช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ซึ่งได้แจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และข้อหายุยงส่งเสริมเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
โดยผู้ต้องหาได้ขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลตีหลักทรัพย์เป็นเงิน 50,000 นบาท โดยมีเงื่อนไขให้ติดกำลัง EM ตลอดเวลา ห้ามใช้คอมพิวเตอร์ ห้ามโซเชียลมีเดีย และห้ามติดต่อกับผู้เสียหายในทุกกรณี
พฤติกรรมวิปริตบังคับเหยื่อเป็นทาสออนไลน์
หากลองย้อนไปดูพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่กระทำกับเหยื่อ พลตำรวจตรีวิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ผู้ต้องหาใช้วิธีการทั้งหมด 3 ขั้นตอน เริ่มจากการหาเหยื่อทางทวิตเตอร์ โดยเลือกเหยื่อที่แต่งชุดคอสเพลย์และมีบุคลิกดี จากนั้นจะสร้างความไว้วางใจโดยเข้าไปพูดคุยกับเหยื่อ โน้มน้าวให้เหยื่อหลงเชื่อและไว้วางใจ ก่อนขอข้อมูลโซเชียลมีเดียของเหยื่อ จากนั้นจะวิดีโอคอลพูดคุยและขอให้เหยื่อเปลือยกายตามการร้องขอ และบันทึกคลิปการสนทนาไว้เพื่อใช้แบล็คเมล์เหยื่อในภายหลัง จากนั้นจะบังคับให้เหยื่อทำตามคำสั่งและข่มขู่ หากไม่ทำตามจะนำคลิปไปเผยแพร่ต่อ
ทั้งนี้ตำรวจ ปคม.ได้ตรวจสอบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาอย่างละเอียด พบข้อมูลหญิงสาวตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก แต่ในจำนวนนี้สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้แล้ว 10 คน และอีก 30 คน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวผู้เสียหาย
นอกจากนี้ยังพบคลิปหญิงสาวที่ถูกบังคับอีก 2 คลิป ซึ่งหนึ่งในผู้เสียหายพยายามฆ่าตัวตายจากเหตุการณ์ที่ถูกบังคับให้ถ่ายคลิป อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่พบว่าคนร้ายส่งภาพหรือคลิปไปให้บุคคลอื่นในเชิงการค้า จึงยังไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์
“ซึ่งในภาพที่ออกมาก็ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการถูกข่มขู่แล้วก็เด็กถูกตกเป็นทาสเหมือนรับใช้ พูดง่าย ๆ มีบ่าวกับนาย สั่งให้เป็นสุนัขก็เป็นสุนัขได้ สั่งให้กินอาหารก็กินอาหารได้ สั่งให้เลียน้ำก็เลียน้ำได้ แล้วก็มีคลิปบางคลิปค่อนข้างชัดเจนว่าใช้อาวุธมีดจะฆ่าตัวตาย แต่ว่าเราไม่สามารถที่จะเปิดเผยให้สื่อมวลชนรับทราบ ซึ่งก็บ่งบอกว่าก็เป็นการทำร้ายจิตใจสำหรับเด็กผู้หญิงต่ำกว่า 18 ปี ค่อนข้างเป็นเด็กที่มีความเปราะบางแล้วก็รุนแรง ซึ่งบางทีพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นภาพเหล่านี้แล้วคงยอมรับไม่ได้” พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าว
พบเด็กผู้ชายกลายเป็นเหยื่อออนไลน์สูงขึ้น
ด้านพันตำรวจเอกสุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการ ปคม. ฝากเตือนผู้ปกครองให้สอดส่องดูแลการใช้โซเชียลมีเดียของบุตรหลาน เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีเด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมจำนวนมาก และมีอัตราส่วนเป็นผู้ชายมากขึ้น โดยกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ชอบใช้ติ๊กต๊อก โดยเฉพาะกลุ่มเต้นเซ็กซี่และยั่วยวนซึ่งมีคนดูจำนวนมาก และในจำนวนนี้มักมีคนร้ายแฝงตัวอยู่ด้วย
เด็กไทยเป็นเหยื่อออนไลน์ 3-4 แสนคนช่วงโควิด
ด้านนายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต ให้ข้อมูลว่า กรณี่เกิดขึ้นนี้ถือเป็น การแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และการล่วงละเมิดทางเพศออนไลน์ หรือ OCESA ซึ่งเร็ว ๆนี้ ยูนิเซฟ เพิ่งรายงานสถนการณ์ดังกล่าว พบเป็นปัญหามากในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่เด็กไทยกว่า 300,000 – 400,000 คน ถูกล่วงละเมิดทางเพศออนไลน์ ทั้งอัดคลิป แบล็กเมล์ ข่มขู่ คุกคาม แต่ที่น่าตกใจคือ มีเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์ที่รายงานต่อเจ้าหน้าที่ นั่นหมายความว่า ตัวเลขที่รายงานอยู่ในขณะนี้ต่ำกว่าความเป็นจริง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพ่อแม่ รู้สึกอับอายจนไม่กล้าแจ้งตำรวจ เด็กจึงตกอยู่ในภาวะเดิมซ้ำๆ
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ สภาพจิตใจของเด็กเหล่านี้ ที่ต้องดูแลใกล้ชิด เพราะมีโอกาสมีภาวะเครียดหลังภยันตราย หรือ PTSD จึงต้องติดตามผลอย่างระยะยาว โดยแพทย์ และครอบครัว
แพทย์วรตม์ ยังแนะนำวิธีการป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศออนไลน์ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการยุติธรรมอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถาบันครอบครัวที่ต้องสอนการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย ไม่คุยกับคนแปลกหน้า ส่วนเด็กก็ต้องเรียนรู้การป้องกันไม่หถูกล่วงละเมิดทางเพศ การไม่เปิดในสิ่งที่เป็นความรัก รวมไปถึงโรงเรียนก็จะเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ช่วยป้องกัน และเข้าช่วยเหลือ แจ้งเหตุเมื่อพบเด็กมีปัญหา
ย้อนคดีดัง บังคับเหยื่อออนไลน์ให้เป็นทาส
ย้อนไปช่วงปี 2563 เกิดคดีอาชญากรรมทางเพศที่เลวร้ายในประเทศเกาหลีใต้ โดยคนร้ายที่เป็นเด็กที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัย ได้ใช้แอปพลิเคชั่นเทเลแกรม ผ่านห้อง "Nth Room" เครือข่ายห้องแชตกับการทารุณกรรมเพศ การข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และการค้ามนุษย์ ได้มีเหยื่อหลายคน เป็นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่ถูกล่อลวง ด้วยข้อเสนอปลอมที่บอกว่ามีงานรายได้มหาศาลให้ แต่ต้องถ่ายวิดีโอหรือภาพอนาจาร และนำมาลงในกลุ่ม Nth Room หากเหยื่อขัดขืนหรือไม่ยินยอม ก็ถูกขู่จะแบล็กเมล์ เปิดเผยชื่อและข้อมูลส่วนตัวให้ทุกคนรอบตัวเธอได้รับรู้ จึงมีเหยื่้อในคดีนี้จำนวนมาก และพบว่าผู้เสียหายที่อายุน้อยที่สุดนั้นเป็นแค่เด็กประถมเท่านั้น