ภาพ 11 เจ้าหน้าที่ มีตำรวจและหน่วยงานอื่นในพื้นที่อ.สัตหีบ ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า มีฝ่ายปกครอง ของอำเภอสัตหีบรวมอยู่ด้วย ลงพื้นที่ไปตรวจเมาน์เทน บี ผับ เมื่อ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ตรวจทั้งด้านนอกและด้านใน โซนผับที่ต่อมาถูกไฟไหม้ ช่วงเวลาที่ลงตรวจ คือ 21.00น. ถัดจากนั้น เจ้าหน้าที่เดินทางกลับ ผับเปิดบริการตามปกติ
นี่เป็นข้อมูลที่แหล่งข่าวบอกมา แต่เขาไม่สะดวกเปิดเผยหน้าตาเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
“ทนายเดชา” ชี้ จนท.ตรวจ “เมาน์เทน บี” ส่อผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
พบเอกสาร! ระบุ เมาน์เทน บี “คล้าย” ผับ
ขณะที่แหล่งข่าวอีกคน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ บอกกับเราว่า การไปตรวจในวันดังกล่าว เป็นการทำหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 22/2558 เนื้อหาของคำสั่งฉบับนี้ พูดถึง 2 เรื่อง คือ มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถ และ การควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ
พูดง่ายๆ คือ การควบคุมผับและสถานที่ “คล้าย” ผับ ซึ่งกรณีของเมาน์เทน บี เขาอ้างตัวเองว่า เป็นสถานที่ “คล้าย” ผับ แม้ว่าภาพที่ปรากฎใครๆจะบอกว่า คือ ผับก็ตาม
คำสั่งหัวหน้าคสช. ข้อ 4 บอกว่า ห้ามผู้ประกอบการ ยินยอมให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้บริการ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามเปิดเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถ้าเป็นสถานที่คล้ายผับเปิดได้แค่ เที่ยงคืน ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กำหนด และ ห้ามพกอาวุธ-ยาเสพติดเข้าไปในพื้นที่หากฝ่าฝืนจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งปิดร้าน 5 ปี
ตามข้อมูลนี้ หมายความว่า ต่อให้เมาน์เทน บี เป็นสถานที่ “คล้าย” ผับ หากมีเด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ เปิดเกินเวลาเที่ยงคืน ก็จะถูกสั่งปิด 5 ปี หรือ ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
หรืออย่าง คำสั่งข้อ 5 หากสร้างความเดือดร้อนรำคาญทางเสียง เจ้าพนักงานสาธารณสุข ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สั่งให้ปรับปรุง ให้เสร็จใน 30 วัน ระหว่างดำเนินการให้หยุดการใช้เสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญ หากฝ่าฝืนก็จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งปิดร้าน 5 ปีเช่นกัน
คำถาม คือ 13 มิถุนายน หาก เจ้าหน้าที่ลงตรวจเพราะชาวบ้านร้องเรียนว่า เสียงดัง ทำไมไม่มีการสั่งปิดเพื่อปรับปรุง และ หากร้านไม่ปรับปรุงทำไมเจ้าหน้าที่ไม่เพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งปิดร้าน 5 ปี ตามที่คำสั่งหัวหน้าคสช.กำหนด
ทั้งนี้ทีมข่าวยังพบว่า ข้อ 7 ของคำสั่งหัวหน้าคสช. ยังบอกอีกว่า หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฎิบัติการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้บังคับบัญชาต้องดำเนินการทางแพ่ง อาญา และ ปกครองกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้น อย่างเฉียบขาดและรวดเร็ว และ หากหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลยอีกทอดหนึ่ง ก็ถือเป็นความผิดวินัยหรือความผิดทางอาญาเช่นกัน
ประเด็นนี้น่าสนใจมาก เพราะ ล่าสุด พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่า เป็นการไปตรวจตามวงรอบ โดยสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ
ส่วนจะทราบหรือไม่ว่ามีการเปิดเป็นผับ และ ทราบหรือไม่ว่า ร้านนี้ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ยังต้องรอการตรวจสอบก่อน
เมื่อถามว่า วันที่ 13 มิถุนายน เจ้าของผับ ทั้ง นาย พงศ์ศิริ (เสี่ยบี) และ นายสมยศ (เสี่ยยศ) ปั้นประสงค์ อยู่ในร้านด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ ไม่ตอบ บอกว่า ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน
แม้ว่า พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ จะไม่ตอบ แต่พีพีทีวี ได้ข้อมูลยืนยันจาก แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน อีก 1 คน บอกว่า เขาสนิทกับ 1 ใน ชุดตรวจวันที่ 13 มิถุนายน
ยืนยันว่า ในวันดังกล่าว เสี่ยบี อยู่ที่ร้านด้วย คุณเอกรัฐเปิดภาพให้ดูว่า คนไหนคือเสี่ยบี แหล่งข่าวคนนี้ ชี้รูปตอบ พร้อมยืนยันหนักแน่นว่า เจ้าของร้านอยู่ร่วมด้วย
ขณะที่คุณเอกรัฐ ประสานไปยังคนสนิทของเจ้าของเมาน์เทน บี เพื่อเช็กข้อมูลให้ตรงกัน ว่า สรุปในวันที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจร้าน เจ้าของร้าน หรือ เสี่ยบีอยู่ที่ร้านหรือไม่ ได้คำตอบว่า เป็นเรื่องปกติ เวลาตำรวจลงตรวจร้าน เจ้าของร้านก็ต้องอยู่ ถ้าไม่อยู่จะถือว่าแปลก
