พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่าได้ออกหมายเรียก ให้นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือทนายพัช ซึ่งเป็นทนายความของนางสรารัตน์ หรือแอม มารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่ 1 ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 13 นาฬิกา เป็นต้นไป หากไม่มาในวันดังกล่าว พนักงานสอบสวน ก็จะออกหมายเรียกอีกเป็นครั้งที่ 2 และหากออกหมายเรียกครบ 2 ครั้งแล้ว ไม่มาพนักงานสอบสวนก็จะขออนุมัติหมายจับ
สำหรับข้อหาที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ทนายพัช มารับทราบ คือความผิดอาญาตามมาตรา 184 ฐานช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง โดยการ ทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐาน ส่วนพยานหลักฐานที่นำไปสู่การแจ้งข้อหา คือข้อมูลที่ตำรวจพบว่าทนายพัชมีส่วนเกี่ยวข้อง หรืออยู่เบื้องหลังการทำลายหลักฐาน คือกระเป๋าแบรนด์เนมของก้อย เหยื่อของแอม ซึ่งเสียชีวิตที่จังหวัดราชบุรี โดยพบว่ากระเป๋าของก้อย ถูกน้องสะใภ้ของแอม ส่งต่อไปให้เพื่อนสนินทของแอมในจังหวัดเพชรบุรี
ขณะที่ ทนายพัช ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ มีเพียงข้อมูลที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าเธอได้รับมอบหมายจาก แอม ให้ฟ้องกลับตำรวจชุดทำ คดี ในความผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมถึงฟ้องกลับนายรพี ชำนาญเรือง ผู้ประสานงานในคดีของแอม ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
"ทนายพัช"เบี้ยวนัด รับทราบข้อหาช่วย "แอม” อำพรางหลักฐาน
เตรียมออกหมายจับเพิ่มคนใกล้ชิด ช่วย "แอม" ซ่อนของกลาง
ด้าน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีทนายพัช จะฟ้องกลับตำรวจ 3 นาย ในความผิดมาตรา 157 ว่ายังไม่ทราบเรื่อง แต่เป็นสิทธิ์ที่ทุกคนจะฟ้องได้ และยืนยันว่าตำรวจทำงานตามพยานหลักฐานไม่ใช่กระแสสังคม และเมื่อทนายพัช มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก พนักงานสอบสวน ก็มีดุลพินิจได้ว่าจะขอหมายขังหรือไม่ก็ได้
ส่วนในวันนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปพบเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อหารือข้อกฎหมาย รวมถึงกรณีความผิดของโรงงาน ที่ปล่อยให้มีการนำสารไซยาไนด์ไปขาย โดยตำรวจมี ข้อมูลโรงงานดังกล่าว แต่ต้องหารือกับเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้กำกับดูแลสารดังกล่าว ว่ามีความผิดในกรณีใดหรือไม่