แนวโน้มหุ้นไทย (15 ก.พ.64) ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,522.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.37 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (15 ก.พ.64)  ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,522.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.37 จุด (+0.95%) มูลค่าการซื้อขาย 106,651.80 ล้านบาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับโมเมนตัมเชิงบวกจากต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า ทั้งภูมิภาคเอเชียที่บวกเฉลี่ย 0.8% และตลาดในยุโรปบวกเฉลี่ย 0.7% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับขึ้น จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯเป็นหลัก

กว่าจะเป็นหุ้นโออาร์ หุ้นเพื่อคนตัวเล็ก กับ อนาคตธุรกิจค้าปลีกที่ตีคู่ไปกับธุรกิจพลังงาน

ทางฝ่ายวิจัยของโนมูระคาดการณ์ว่าเม็ดเงินทั้งหมดจะได้ข้อยุติที่ 1.7 ล้านล้านเหรียญ จึงทำการปรับคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี 64-65 ขึ้นสู่ 5.2% และ 5.4% จากเดิม 4.2% และ 5.0% ส่งผลดีต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ให้สูงขึ้น

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และปัจจัยการเมืองในประเทศ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มแบงก์, ท่องเที่ยว และค้าปลีก ถ่วงตลาด ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ออกมาระบุว่าอาจเพิ่มวันกักตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศเป็น 21 วัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโควิดสายพันธุ์ใหม่

นอกจากนี้ หุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เริ่มนิ่งหลังจากตอบรับปัจจัยบวกไปมากแล้วในการเข้าสู่การคำนวณของ MSCI และ SET50 Index พร้อมให้จับตาการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มปตท.ที่จะทยอยออกมา

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,529-1,535 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

OR มูลค่าการซื้อขาย 38,868.82 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,490.35 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,855.33 ล้านบาท ปิดที่ 23.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

SCGP มูลค่าการซื้อขาย 2,663.63 ล้านบาท ปิดที่ 50.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,066.32 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

หุ้นไทย (15 ก.พ.64) ปิดการซื้อขายเช้า 1,528.52 จุด เพิ่มขึ้น+20.17  จุด (+1.34%) มูลค่าการซื้อขาย 61,243.18 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ โดยมี OR เป็นตัวนำตลาด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น โดยมีหุ้น OR เป็นตัวนำขึ้นและมีผลต่อตลาด นอกจากนี้ยังได้รับ Sentiment จากนอกประเทศค่อนข้างดี หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศดีขึ้น และมาตรการของแต่ละประเทศน่าจะหนุนให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นได้ อีกทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้นได้ดี จึงส่งผลให้ตลาดบ้านเราได้รับอานิสงส์ไปด้วย

เศรษฐกิจไทยปี 63 โดนพิษโควิด-19 หดตัว -6.1% ต่ำสุดตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง

อย่างไรก็ดี ให้ระวังแรงเหวี่ยงระหว่างทางจากปัจจัยการเมืองในประเทศต้องจับตาความไม่แน่นอน โดยจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเริ่มวันพรุ่งนี้ และจะมีการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 20 ก.พ.นี้ด้วย ดังนั้นด้วยปัจจัยในประเทศคงจะต้องระวังว่าจะทำให้เกิดความผันผวน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้แต่จ้องระวังความผันผวนระหว่างทางด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

OR มูลค่าการซื้อขาย 25,079.72 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,786.88 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

SCGP มูลค่าการซื้อขาย 1,778.90 ล้านบาท ปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

BAM มูลค่าการซื้อขาย 1,437.44 ล้านบาท ปิดที่ 22.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,357.81 ล้านบาท ปิดที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

หุ้นไทย (15 ก.พ.64)  เปิดการซื้อขาย 1,516.10 จุด เพิ่มขึ้น +7.75 จุด (+0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 8,516.09 ล้านบาท ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อวันศุกร์ บางตลาดยังปิดทำการ เช่น จีน, ไต้หวัน  รวมถึงตลาดสหรัฐปิดทำการคืนนี้เช่นกัน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกกันราว 0.5% แต่ก็มีบางตลาดได้ปิดทำการอย่างจีน, ไต้หวันและคืนนี้ตลาดสหรัฐฯก็จะปิดทำการด้วย โดยตลาดบ้านเราคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเช้านี้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สก็พุ่งอีกเกือบ 2% ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย

แรงงาน ชงครม.ไฟเขียว “ม.33 เรารักกัน” วันนี้ ผู้ประกันตนมาตรา33 รอลุ้นเยียวยา 4,000 บาท

รัฐช่วย"ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ"เข้าถึง เราชนะ รับงวดแรก 4,000 บาท 5 มี.ค. 64

ทั้งนี้ เป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศได้มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ได้จัดหาวัคซีนโควิด-19 ได้เพิ่มอีก 200 ล้านโดส ซึ่งครอบคลุมประชากรของสหรัฐฯ ส่งผลให้คาดหวังว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวได้ดี ส่งผลให้หุ้นวัฎจักรในสหรัฐฯต่างปรับตัวข้นได้ดีเมื่อวันศุกร์ทีผ่านมา และคาดว่าหุ้นวัฎจักรในตลาดบ้านเราที่มีมากจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย

อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ของตลาดอาจจำกัด จากการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน หลังจากที่หุ้น OR จะเข้า SET50 มีผล 17 ก.พ. และเข้า MSCI มีผล 26 ก.พ.นี้ ทำให้ต้องเผชิญแรงขายทำกำไรบ้าง นอกจากนี้ปัจจัยการเมืองก็ยังต้องติดตามในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,530 จุด

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 142.34 จุด

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีน ยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดยตลาดหุ่นฮ่องกงปิดทำการในระหว่างวันที่ 12-15 ก.พ. ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการระหว่างวันที่ 11-17 ก.พ.

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ