จากกรณีชมรมแพทย์ชนบท ตั้งข้อสังเกต ประเด็น “องค์การเภสัชกรรม จัดซื้อ ATK ราคาต่ำสุด แต่ก็ได้ของคุณภาพต่ำไม่ได้มาตรฐาน WHO ” และด้านต้นทุนที่แท้จริงจากโรงงานที่ราคาต่ำและนำมาขายราคาสูง รวมถึงเรื่องการให้ผลทดสอบความไวต่ำและผลลบเทียม ซึ่งอ้างอิงจากวารสารในต่างประเทศ
หมอระวี เสนอพิสูจน์คุณภาพLepu ก่อนสั่งซื้อ
“ออสท์แลนด์ แคปปิตอล - ณุศาศิริ” แจงปมชุดตรวจโควิด-19 ATK “ยี่ห้อ Lepu”
ทำให้ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด และ บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ชนะการประมูลจัดหาและนำเข้าชุด ATK เพื่อแจกให้ประชาชนใช้ตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยตนเอง จำนวน 8.5 ล้านชุด ออกมาชี้แจงอีกครั้ง
โดย น.ส.รังสินี หวังมั่น product specialist บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด นำหลักฐานผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการจาก 3 แหล่ง ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศไทย ออกมาประกอบการชี้แจงดังนี้
1. สถาบัน BIOMEX GmbH Heidelberg ณ ประเทศเยอรมัน ผลการศึกษาและทดสอบ หลังจากออกสู่ตลาดโดยการใช้งานของบุคคลทั่วไปและบุคคลากรทางการแพทย์ ในเดือนเมษายน 2564 มีผลการศึกษาและทดสอบตามลำดับ ดังนี้
ในเดือนเมษายน 2564 พบว่าความไวในการวินิจฉัยคือร้อยละ 91.30 ความจําเพาะร้อยละ 100 และเดือนมิถุนายน 2564 พบว่าความไวในการวินิจฉัยคือ ร้อยละ 95.5 และความจําเพาะร้อยละ 100
2. คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้มีผลการศึกษาและทดสอบ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่าความไวในการวินิจฉัยคือร้อยละ 92 ความจำเพาะร้อยละ 99.3
3. คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลการศึกษาพบว่า มีความไวในการวินิจฉัยร้อยละ 90 ความจำเพาะร้อยละ 100 และความไม่จำเพาะร้อยละ 0
ซึ่งผ่านตามเกณฑ์ทางกฎหมาย และเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด รวมถึงสอดคล้องกับประกาศจาก อย.ไทยเรื่องชุดตรวจโควิดแบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง ที่ได้กำหนดว่าต้องมีคุณภาพมาตรฐานโดยผ่านเกณฑ์ประเมิน คือ ความไวต้องมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 90 ความจำเพาะมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 98 และความไม่จำเพาะน้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 10
ส่วนกรณี การประกาศระงับใช้และเรียกคืนชุด ATK “SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test” โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ซึ่งมีจำนวน 8.4 ล้านชุด น.ส.รังสินี ชี้แจงว่า มีข้อเกี่ยวโยงกับการลักลอบนำเข้า เนื่องจาก บริษัทผู้ผลิต คือ Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. ไม่ได้ยื่นขออนุญาต กับทาง FDA สหรัฐเข้าไปจำหน่าย ดังนั้นเมื่อพบการลักลอบนำเข้า ทาง FDA สหรัฐ จึงทำการเรียกคืนสินค้าทั้งหมด
ชุดตรวจที่ถูก FDA สหรัฐ เรียกคืน ประกอบด้วย ชุดตรวจที่เป็นแบบเจาะเลือด 8.4 ล้านชุด และแบบแยงจมูก 200,000 ชุด ทั้งหมดได้ถูกทำลายทิ้งแล้วโดยบริษัทผู้ผลิต และไม่มีความเกี่ยวข้องกับล็อตจำนวน 8.5 ล้านชิ้นที่กำลังจะนำเข้ามายังประเทศไทย น.ส.รังสินี ระบุ
อภ.ยันซื้อ ATK 8.5 ล้านชุด ตาม TOR ที่ สปสช.กำหนด
กรณีราคา 70 บาท ที่ชนะการประมูลขององค์การเภสัชกรรม
นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด และ กรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่าย ATK ของ "ออสท์แลนด์ แคปปิตอล" และเป็นผู้ชนะประมูลในโครงการพิเศษของ สปสช. ชี้แจงว่า ต้นทุนจากโรงงานอยู่ที่ 30 กว่าบาท แต่ยังมีส่วนของต้นทุนอื่น คือ
- ค่าขนส่งซึ่งต้องเช่าเหมาลำเครื่องบินจากสายการบิน China Air ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่งและเมื่อสินค้าขนส่งมาถึงประเทศไทย
- ค่าใช้จ่ายด้านการจัดเก็บชุดอุปกรณ์ภายในห้องที่มีอุณหภูมิเหมาะสมเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
- จัดส่งอีกกว่า 1,000 จุดทั่วประเทศ ค่าพนักงาน เป็นต้น
- ค่าปรับเปลี่ยนแพคเกจให้เป็นภาษาไทย เป็นต้น
จึงมึความจำเป็นต้องงบวกเพิ่มจากราคาต้นทุนจากโรงงาน ซึ่งรวมแล้วอยู่ที่ 70 บาท ตามที่ชนะการประมูล
เราชนะจากคนอื่นด้วยราคาแค่ 2 บาท ทำไมไม่ไปตรวจสอบคนอื่นบ้าง ชี้แจงออกมาเลยว่าต้นทุนทั้งหมดเท่าไหร่อย่างไร ทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส เหมาะสมกับคุณภาพของชุดผลิตภัณฑ์ ATK แล้ว เป็นครั้งแรกที่เราเข้ารวมการประมูลของภาครัฐ ก็ไม่รู้ว่าเราไปป่วนวงการเขาหรือไม่ นางศิริญา ชี้แจง
แจงปม ภาพถ่าย วปอ.61 มอบชุดตรวจ ATK “LEPU” กับ นายอนุทิน รมว.สาธารณสุข
ส่วนกรณีภาพถ่ายการส่งมอบชุดตรวจดังกล่าว กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการบริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 61 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
นางศิริญา ชี้แจงว่า เนื่องจากสมาชิกหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 61 มีความต้องการสั่งซื้อชุดตรวจ ATK “LEPU” เพื่อนำไป บริจาคให้กับกระทรวงสาธารณสุข จึงดำเนินการซื้อผ่าน บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และมีจำหน่ายอยู่ก่อนการเข้าร่วมประมูลแล้ว ในแอปพลิเคชันหมอฮัลโหล จึงทำการตกลงซื้อขายกันในราคาชุดละ 195 บาท จำนวน 6,461 ชุด เป็นเงิน 1,259,895 บาท และมอบให้กับนายอนุทินตามที่ปรากฏในภาพ