การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยกำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤติ และลุกลามจนเกิดการติดเชื้อในโรงงานถึง 1,000 แห่ง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บอกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีแต่ออกคำสั่ง ซึ่ง
ภาคอุตสาหกรรมก็ปฏิบัติตามรัฐบาล แม้จะไม่เคยมีความชัดเจนเลย การจะปฏิบัติตามทำได้ยากมากๆ แต่รัฐบาลก็ไม่เคยสนับสนุนงบประมาณใดๆวันนี้เอกชนจึงต้องการเสนอมาตรการควบคุมโควิดในภาคอุตสาหกรรมให้เป็นในทิศทางเดียวกัน และต้องการรู้ว่ารัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไร เพื่อให้อยู่รอด ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจอาจจะพังได้
ส.อ.ท.เสนอเพิ่มเงินคนละครึ่งเป็น 5,000 บาท
ส.อ.ท.เสนอ 4 มาตรการ คุมโควิดในโรงงาน หลังพบติดเชื้อกว่า 1,000 โรงงาน
สำหรับ 4 มาตรการที่สภาอุตสาหกรรมจะส่งให้กับรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ ได้แก่ มาตรการ บับเบิล แอนด์ ซีล สุ่มตรวจหาเชื้อด้วยชุด ATK จำนวน 10% ของพนักงานทุก 14 วัน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย ส่วนสถานประกอบการที่มีพนักงาน 300 คนขึ้นไป ให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนงบจัดตั้งสถานที่กักตัว สถานที่รักษาผู้ป่วยในโรงงาน ส่วนโรงงานที่มีพนักงานต่ำกว่า 300 คน ขอให้รัฐบาลร่วมจัดตั้งศูนย์กักตัวในชุมชน กับศูนย์พักคอย และสุดท้ายคือเร่งจัดสรรวัคซีนให้เร็วที่สุด
ทางด้านสมาคมภัตตาคารไทย ก็ทนไม่ไหวเช่นกัน เตรียมพบรัฐมนตรีสาธารณสุขในวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เผยว่า วันพรุ่งนี้สมาคมฯและตัวแทนธุรกิจร้านอาหารขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมทั้งสมาคมศูนย์การค้าไทย เตรียมเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความชัดเจนว่าจะให้ร้านอาหารกลับมาเปิดร้านแบบนั่งทานในร้านได้ อย่างเร็วเมื่อไหร่ วันที่ 1 ก.ย. หรือ อย่างช้าวันที่ 15 ก.ย. นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องเวลา ก่อนที่ร้านอาหารจะปิดตัวไปมากกว่านี้ โดยใน 1 เดือนที่ผ่านมาที่ถูกคำสั่งห้ามนั่งทานอาหารในร้านมีเม็ดเงินหายไป 34,100 ล้านบาท