หุ้นไทย (28 ก.ย.64) ปิดการซื้อขายลดลง -3.52 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (28 ก.ย.64) ปิดการซื้อขายลดลง -3.52 จุด ที่ระดับ 1,616.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 98,947.17 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

ครม.ไฟเขียว ขึ้นภาษีบุหรี่ มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.64 คาดดันขึ้นซองละ 6-8 บาท

ราชกิจจาฯ ประกาศ ขยายเพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% คาด ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2565 แตะ 62.69%

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,152.75 ล้านบาท ปิดที่ 133.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,258.42 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 4,212.37 ล้านบาท ปิดที่ 63.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,159.96 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,668.86 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบอย่างไร้ทิศทาง หลังจากที่ไม่มีปัจจัยใหม่หนุน ทำให้หุ้นแกว่งไซด์เวย์ขึ้น/ลงไม่แรง โดยมีสถานการณ์น้ำท่วมที่กดดันอยู่ คาดว่าจะลากยาวไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ดังนั้นต้องจับตาว่าจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคอย่างไร อีกทั้งติดตามผลของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งทั้งแดนบวก-ลบสลับราว 0.5% ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวในแดนลบราว 1% โดยขณะนี้กำลังจับตาเรื่องที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาดัลลัสและสาขาบอสตันลาออกหลังเกิดกระแสข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งก็ต้องติดตามว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีความเห็นอย่างไร

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) นายสรพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบอย่างไร้ทิศทาง พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635 จุด

หุ้นไทย (28 ก.ย.64) ปิดการซื้อขายเช้า +5.02    จุด ที่  1,625.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,138.14 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

คนกรุง -ปริมณฑล สบายใจได้อธิบดีกรมชลประทาน ยันน้ำไม่ท่วมซ้ำรอยปี 54

คปภ.ส่งทีมคุมเข้ม เอเชียประกันภัย จ่ายเงินเคลมประกัน ปชช.

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,721.98 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,248.32 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,482.34 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,203.82 ล้านบาท ปิดที่ 40.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,938.08 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากปัจจัยความต้องการและอุปทานที่ไม่สมดุล โดยราคาน้ำมัน Brent ได้ขึ้นมาใกล้ระดับ 80 เหรียญฯ/บาร์เรลตอบรับสหรัฐฯจะเปิดเสรีการบินในเดือนพ.ย. และปัจจัยในประเทศ ภาครัฐลดการกักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว

ส่วนตลาดบ้านเราวันนี้ได้แรงหนุนจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงมาต่ำกว่าระดับหมื่นรายต่อวัน แต่ยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 ก.ย.นี้ ตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ก่อน ส่วนนอกประเทศวันนี้ให้ติดตามนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ แถลงต่อสภาคองเกรสในคืนนี้ จับตาทิศทางอัตราเงินเฟ้อหลังจากราคาน้ำมันปรับขึ้นกดดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้น

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

หุ้นไทย (28 ก.ย.64) ปรับฐานต่อ จากแรงกดดันตลาดทั่วโลกปรับฐานหลังขึ้นไปก่อนหน้านี้ แรงหนุนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำหมื่นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานต่อ จากแรงกดดันตลาดทั่วโลกปรับฐานหลังขึ้นไปก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นขึ้น และตลาดฯก็ยังขาดปัจจัยใหม่หนุน ประกอบกับยังมีความกังวลเรื่องของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ยังต้องติดตามต่อไป

ราคาทองวันนี้ – 28 ก.ย. 64 ปรับราคา 4 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 28,350

กอนช. สั่งเฝ้าระวังแม่น้ำสายหลักทุกสาย หลังปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ วานนี้ตลาดบ้านเราได้แรงขายสุทธิทั้งจากนักลงทุนต่างชาติ และกองทุน ซึ่งเป็นการขายทำกำไรระยะสั้นหลังขึ้นไปแรง และเป็น Sell on fact หลังผลประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ออกมา ทำให้กดดันหุ้นขนาดใหญ่ อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/64 คาดว่าจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบ yoy จากที่มีการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังน่าจะได้แรงหนุนบ้างจากจำนวนผู้ติดเชื้อวันนี้ 9,489 ราย ต่ำสุดในรอบราว 2 เดือนครึ่ง และต่ำกว่าระดับ 10,000 ราย เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน น่าจะหนุนหุ้น Reopening ได้บ้าง อีกทั้งเงินบาทเช้านี้อ่อนค่ามาที่ 33.65 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งอ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปี 2 เดือน นับจากเดือนก.ค.2560 ที่เงินบาทอยู่ที่ 33.7 บาท/ดอลลาร์ อันเป็นผลจากเงินดอลลาร์ฯแข็งค่า หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี สูงขึ้นมาที่ 1.5% สูงสุดในรอบ 3 เดือน อาจเป็นสัญญาณอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร ส่วนเงินบาทที่อ่อนค่าก็จะเป็นแรงหนุนหุ้นในกลุ่มส่งออก, อิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร และราคาน้ำมันยังปรับขึ้นน่าจะหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ทั้งนี้ ยังมองตลาดฯน่าจะยังซึมเพื่อรอดูปัจจัยใหม่ อีกทั้งยังจับตาการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 3/64 ในสัปดาห์นี้ และรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ก่อน แต่ให้ติดตามทิศทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ส่วนนอกประเทศให้ติดตามนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในคืนนี้ และจับตาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯด้วย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,633 จุด

กลยุทธ์ลงทุนจาก บล.ไทยพาณิชย์ เคลื่อนไหวในกรอบ กังวลปัญหาน้ำท่วม แต่มีปัจจัยหนุนบางกลุ่มประคอง
 กลยุทธ์การลงทุน :

คาด SET เคลื่อนไหวภายในกรอบ โดยมีกรอบบนที่ 1630 และ 1640 จุด ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านจะเป็นสัญญาณบวก ส่วนกรอบล่างอยู่ที่ 1610 และ 1600 จุด หากต่ำกว่าจะเป็นสัญญาณลบ โดยปัญหาน้ำท่วมสร้างความกังวลต่อตลาด อย่างไรก็ตาม แรงซื้อจากกลุ่ม reopen ด้วยปัจจัยหนุนมาตรการผ่อนคลาย รวมถึงกลุ่มพลังงาน และแบงก์ ช่วยประคองดัชนี กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง

ล็อคเป้าลงทุน :

> Selective buy ใน 2 ธีม 1) ธีมหลัก: 1.1) หุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานดี BBL BDMS HANA OSP TU 1.2) หุ้นได้อานิสงส์เปิดประเทศ กระตุ้นกำลังซื้อ/ท่องเที่ยว AOT CRC BEM ZEN ERW MINT 2) ธีม trading idea: 2.1) หุ้นราคาลงแรง มีโอกาสทำ window dressing OR OSP SCC TQM MAJOR PTG SYNEX 2.2) หุ้นส่งออกได้ประโยชน์บาทอ่อน KCE HANA III WICE

> แนะนำ BCP ธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการตลาดน้ำมันฟื้นตัวเด่น ได้แรงหนุนจาก UBE เตรียมเข้า trade ใน SET และแนะนำ MINT คาดงบ 3Q64 ฟื้นตัว QoQ ได้อานิสงส์การผ่อนคลายมาตรการทั้งในประเทศและยุโรป

> Commodity trading idea เก็งกำไร KSL คาดปริมาณหีบอ้อยและปริมาณผลิตน้ำตาลปี 65 เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำตาลปรับขึ้นต่อเนื่องหลังจากน้ำตาลโลกขาดดุล

สถานการณ์อื่นๆ 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,869.37 จุด เพิ่มขึ้น 71.37 จุด (+0.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,443.11 จุด ลดลง 12.37 จุด (-0.28%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,969.97 จุด ลดลง 77.73 จุด (-0.52%)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,577.89 จุด ลดลง 4.94 จุด (-0.14%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 30,142.38 จุด ลดลง 97.68 จุด (-0.32%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,323.00 จุด เพิ่มขึ้น 114.22 จุด (+0.47%)

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ก.ย.) ปิด 75.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 2%

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ก.ย.) อยู่ที่ 5.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

เงินบาทเปิด 33.65 อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 33.55-33.70

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ