หุ้นไทย (29 ต.ค.64) ครึ่งเช้าปิด -3.06 จุด พร้อม หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (29 ต.ค.64) ครึ่งเช้าปิด -3.06 จุด ที่ระดับ 1,621.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,969.81 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

คนละครึ่งเฟส 3 เปิดลงทะเบียนให้สิทธิอีก 1.19 แสน 1 พ.ย.รับเลย 4,500 กลุ่มเดิมเติมให้อีก 1,500 บาท

สวนสยาม ลุ้นรัฐเคาะเปิดบริการทัน 1 พ.ย. นี้ หลังถูกปิดยาวครึ่งปี

TFM มูลค่าการซื้อขาย 3,681.93 ล้านบาท ปิดที่ 15.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,313.47 ล้านบาท ปิดที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,263.77 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,134.45 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 1,026.55 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ หลังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันก็มีความกังวลผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลด QE ทำให้นักลงทุนเลือกขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อน

ทั้งนี้ ตลาดฯได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มพลังงาน ที่มีแรงขายทำกำไรออกมา นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 พ.ย.นี้ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังยืนในแดนลบคล้ายช่วงเช้า หลังยังไม่เห็นปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

 

หุ้นไทย (29 ต.ค.64) คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในทิศทางที่อ่อนตัวลง พร้อมกลยุทธ์ลงทุน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในทิศทางที่อ่อนตัวลง ในช่วงรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/64 ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนการลงทุน และแม้งบฯในต่างประเทศจะออกมาดี แต่ก็คาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากบริษัท แอปเปิล (Apple) และแอมะซอน (Amazon) ทำให้เช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวลง

ราคาทองวันนี้ – 29 ต.ค. 64 ปรับราคาครั้งที่ 2 บาท รูปพรรณบาทละ 28,700

โฆษกรบ. ขอบคุณ “รัสเซล โครว์” โปรโมทเที่ยวไทย สะท้อนเชื่อมั่นมาตรการเปิดประเทศ

ส่วนงบฯในกลุ่ม Real Sector ในตลาดบ้านเราออกมาไม่ดี หลายบริษัทออกมาต่ำกว่าคาด ไม่ว่าจะเป็น DTAC, PTTEP เป็นต้น ซึ่งทำให้ Sentiment ตลาดฯไม่ดี นักลงทุนจึงระวังการลงทุนมากขึ้น อีกทั้งยังกังวลเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นด้วย อันเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ทำให้นโยบายการเงินในต่างประเทศอาจจะต้องเข้มข้นขึ้น ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน

อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้ อาจจะมีการปรับพื้นที่สีแดงเข้มลดลงเพื่อรอเปิดประเทศ และติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,635 จุด

“Facebook” เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Meta” เดินหน้าธุรกิจโลกเสมือนจริง หุ้นเด้งตอบรับ 1.51%

บล.ไทยพาณิชย์ ฟื้นตัวจำกัด และมี  downside ตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่
 
กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET ยังมีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ และการฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1632 และ 1640 จุด ตามลำดับ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เผชิญแรงขายทำกำไรเป็นปัจจัยกดดันตลาด ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1619 และ 1612 จุด ตามลำดับ ประเด็นสำคัญกลางสัปดาห์หน้าติดตามประชุมเฟดที่คาดจะมีการประกาศลด QE  กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง

ล็อคเป้าลงทุน:

คาดตลาดพักตัวช่วงสั้นจากภาพรวมเศรษฐกิจซบเซาและแนวโน้มงบ 3Q64 ไม่ดีนัก เน้นหุ้น domestic play ในพอร์ตหลักที่เป็นหุ้นปลอดภัย ปัจจัยพื้นฐานและกำไรยังมี momentum ที่ดี

พอร์ตหลัก 1) หุ้นโรงไฟฟ้าที่คาดแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงาน 2H64 แข็งแกร่ง และได้อานิสงส์จากบาทแข็งค่า เลือก GPSC BGRIM 2) หุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดี ราคาหุ้นยัง laggard เลือก BDMS 3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก bond yield ขยับขึ้น เลือก BLA

พอร์ตเทรดดิ้ง เลือก GLOBAL มอง Downside จำกัด กำไรฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์ ได้อานิสงส์มาตรการกระตุ้นของรัฐ

Conviction Call แนะนำ BDMS คาดกำไร 3Q64 โตทั้ง YoY, QoQ และมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว ราคาหุ้นยัง laggard และยังคงแนะนำหุ้นโรงไฟฟ้าทั้ง GPSC และ BGRIM แนวโน้มกำไรจากการดำเนินงาน 2H64 ยังคงแข็งแกร่ง

สถานการณ์อื่นๆ 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,730.48 จุด เพิ่มขึ้น 239.79 จุด (+0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,596.42 จุด เพิ่มขึ้น 44.74 จุด (+0.98%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,448.12 จุด เพิ่มขึ้น 212.28 จุด (+1.39%)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,519.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด (+0.03%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,819.16 จุด ลดลง 0.93 จุด (-0.003%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,466.86 จุด ลดลง 88.87 จุด (-0.35%)

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 82.81 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.2% ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ต.ค.) อยู่ที่ 7.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 33.18 แข็งค่าจากวานนี้ จับตาตัวเลขศก.ไทย-ผลประชุมศบค.-ทิศทาง Flow

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ