หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
เช็กเลย! รพ.เอกชน ทยอยแจ้งคิว-เปิดจองวันฉีดวัคซีน "โมเดอร์นา" หลังเข้าล็อตแรกวันนี้
ไทม์ไลน์มหากาพย์นำเข้าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา กว่าล็อตแรกจะมาถึงไทย
โมเดอร์นาล็อตแรก 5.6 แสนโดสถึงไทย เตรียมกระจาย 10% ของยอดจอง สภากาชาด ศิริราช รามา รพ.เอกชน
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,910.68 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,076.89 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,050.39 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,883.81 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,781.92 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักฐานจากแรงขายหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงไปมาก โดยเฉพาะถ่านหิน และรับแรงขายจากหุ้นที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ด้วย อย่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ช่วงระหว่างรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบสลับกัน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นตอบรับผลการเลือกตั้ง ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนติดลบเล็กน้อย ด้านตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกราว 1% จากการเล่นเก็งงบฯเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ปัจจัยหลักคือการติดตามผลการประชุมเฟด, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และผลการเปิดประเทศ 1 พ.ย.จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากหรือน้อยแค่ไหน รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ด้วย อีกทั้งให้รอติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้หลังพักฐานวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625-1,630 จุด
หุ้นไทยวันนี้ (1 พ.ย.64) ปิดการซื้อขายครึ่งเช้า -7.67 จุด แกว่งไซด์เวย์ค่อนข้างไปทางผันผวนทั้งในแดนบวก-ลบอย่างไร้ทิศทาง
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
เตรียม! "คนละครึ่งเฟส 4" โฆษกรัฐบาล เผยลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 3 เต็มแล้ว มีแอปฯเดลิเวอรีใหม่
ตรวจหวย - ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ลอตเตอรี่ 1/11/64
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,916.20 ล้านบาท ปิดที่ 10.80 บาท ลดลง 0.60 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,302.37 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,300.56 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,277.68 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,109.64 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ค่อนข้างไปทางผันผวนทั้งในแดนบวก-ลบอย่างไร้ทิศทาง ในช่วงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และบรรยากาศโดยรวมยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามา
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราเผชิญแรงขายจากหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 และ SET100 ทั้งกลุ่มพลังงาน, แบงก์, AOT ก่อนผลประชุมเฟดจะออกมา อีกทั้งวันนี้เปิดประเทศวันแรก ยังต้องรอดูจำนวนนักท่องเที่ยว และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะเป็นอย่างไร รวมถึงติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งไซด์เวย์ซึม ๆ แต่หากดัชนีฯลงมาแถว 1,600 จุดก็สามารถทยอยซื้อได้ พร้อมให้แนวรับ 1,618-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้แต่ไม่มาก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์เมื่อศุกร์ที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้น โดยตลาดบ้านเรามีปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศวันนี้วันแรก แต่ก็ต้องรอดูจะมีความคึกคักมากแค่ไหน และราคาน้ำมันดิบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้นด้วย
ราคาทองวันนี้ – 1 พ.ย. 64 ปรับราคา 3 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 28,700
เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 รอบเก็บตก 1.19 แสน วิธีลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com รับสิทธิ 4,500 บาท
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ และการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งทั้งสองการประชุมเป็นตัวชี้ทิศทางตลาดหุ้น
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราปรับตัวลงไปพอควรแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากองทุนก็เริ่มซื้อ แต่นักลงทุนต่างประเทศขายก็คงะมาจากการปรับพอร์ตตามการปรับลด QE ก็ได้ ซึ่งตลาดฯก็ได้รับรู้ไปบ้างแล้ว โดยสัปดาห์นี้มองว่าตลาดฯคงจะผันผวนตามผลประชุมเฟด
พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,634 จุด
