MACO จับมือ YGG บุกตลาดเกมอาเซียน - YGG ไตรมาส 3/64 กำไรพุ่ง เพิ่มทุนยกระดับหุ้นเข้า SET


โดย PPTV Online

เผยแพร่




MACO จับมือ YGG พร้อมทะยานสู่ตลาดเกมขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้าน YGG ฟอร์มเจ๋งงวด 9 เดือนปี 64 กำไรพุ่ง 108% รุกเพิ่มทุนล็อตใหญ่ยกระดับหุ้นเข้า SET

บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO หนึ่งในผู้นำสื่อโฆษณากลางแจ้งที่มีความหลากหลายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน และบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ผู้นำการบริการด้าน Visual effect และ 3D animation เกี่ยวกับงานโฆษณา ภาพยนตร์ และเกม ทุ่มงบ 200 ล้านบาทประกาศจับมือร่วมทุนถือหุ้นสัดส่วน 50:50 สานต่อกลยุทธ์ MATCH ของ BTS Group เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในธุรกิจใหม่ให้กับกลุ่มบริษัท

YGG CHAPTER 2 ต้นไม้ใหญ่แห่งโลกดิจิทัล รุกเทคโนโลยีใหม่-ผนึกพันธมิตรสู่ธุรกิจต้นน้ำ

YGG เนื้อหอม 30 กองทุนให้ความสนใจ ชี้โมเดลธุรกิจแกร่ง

YGGคว้า 3 รางวัลการันตีผลงานเยี่ยม ทุกธุรกิจรายได้โตต่อเนื่อง

โดยเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ คาดภายใน 3 ปี จะสามารถปล่อยเกมใหม่สู่ตลาดได้ 5-7 เกม

สำหรับในประเทศไทยอุตสาหกรรมเกมได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนักลงทุนทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลที่ก่อตั้งสหพันธ์ อีสปอร์ตประเทศไทย (TESF) เพื่อเปลี่ยนเกมเมอร์ให้กลายเป็นผู้เล่น e-Sports มืออาชีพ ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลได้หนุนการเติบโตของตลาดเกมในประเทศส่งผลให้อุตสาหกรรมเกมเติบโตอย่างรวดเร็วราว 15% ต่อปี มาอยู่ที่ราว 900 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเกมบนมือถือ โดยในประเทศไทยรวมถึงในภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลกเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เนื่องจากการเล่นเกมในปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือที่ทำให้เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมเกมมีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้อีกมากในอนาคต นอกจากนี้การเติบโตดังกล่าวยังได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ง่ายขึ้น การเพิ่มขึ้นของสมาร์ทโฟน เกมโซเชียลมีเดีย และความสนใจใน e-Sports ทั้งนี้อุตสาหกรรมเกมในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีเกมเมอร์ถึง 67% ของประชากรออนไลน์ทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้ภายหลังจาก BTS Group ได้เข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน YGG โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 9.09% ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา และได้มองหาโอกาสในการสร้างและผนึกกำลังที่มีศักยภาพระหว่างบริษัทในเครือมาเป็นพันธมิตรร่วมผลักดันยุทธศาสตร์ให้เกิดขึ้นตามแผนการที่วางไว้ นี่จึงเป็นที่มาของการร่วมทุนระหว่าง MACO และ YGG โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับทั้งสองบริษัท อย่างไรก็ตามด้วยศักยภาพของตลาดเกมในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การตัดสินใจร่วมทุนระหว่างทั้งสองบริษัทนั้น มีเป้าหมายหลักคือเพื่อดำเนินธุรกิจ Game Publishing ซึ่งมีจุดหมายปลายทางที่สำคัญคือการไปสู่ฐานะผู้พัฒนาเกม คือภารกิจภายใต้บริษัทร่วมทุนนี้   MACO และYGG จะวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้เผยแพร่ และนำเข้าเกมในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับการเป็นผู้พัฒนาเกม ไปจนถึงการให้บริการลูกค้าภายในประเทศ ทั้งยังให้บริการด้านการตลาดสำหรับนักพัฒนาเกมด้วย  ซึ่งความร่วมมือนี้จะเกิดขึ้นบนอีโคซิสเต็มของเกมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกมไทยให้เติบโตไปสู่ตลาดโลก

คุณธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (YGG) เผยว่า “ทั้ง 2 บริษัทจะได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่แต่ละฝ่ายมีเพื่อสร้างการทำงานที่มีศักยภาพร่วมกันกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง BTSG, VGI, PlanB, Rabbit รวมถึง Zipmex ร่วมด้วยซึ่ง MACO จะเข้ามาช่วยเติมเต็มอีโคซิสเต็มของเกมตั้งแต่การพัฒนาแพลตฟอร์มของ YGG เพื่อนำเข้าและเผยแพร่เกมใหม่ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการโปรโมทเกมต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มโฆษณา ซึ่งนับเป็นจุดแข็งสำคัญของ MACO ,VGI และ PlanB อยู่แล้วในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตเร็วเป็นอย่างมากในภูมิภาคอีกด้วย  ยิ่งไปกว่านั้นเรายังมีความคาดหวังที่ผสานความร่วมมือด้านดิจิทัลร่วมกับกลุ่ม Jaymart ในส่วนของเทคโนโลยีทางการเงินหรือ Crypto Digital Token ที่อาจจะต่อยอดไปด้วยกันได้ในอนาคต โดยภายหลังการลงนามของทั้ง 2 บริษัท ทาง YGG จะเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้เพื่อไปศึกษาตลาดเกมและคัดเลือกเกมที่น่าสนใจสำหรับนำเข้ามาจัดจำหน่ายในระเทศไทย ซึ่งนับเป็นการเดินหน้าทำภารกิจเป็นโปรเจกต์แรกทันทีหลังจากการประกาศร่วมเป็นพันธมิตร”

คุณ พุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันจำนวนผู้คนที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับกระแสดิจิทัลที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมบนมือถือ การเป็นพันธมิตรกับ YGG จะช่วยให้กิจการร่วมค้าสามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อของประชากรออนไลน์ตลอดจนประสบการณ์ในการผลิตและเผยแพร่เกมประสบความสำเร็จ  ซึ่งหลังจากการปรับลดบทบาทของธุรกิจสื่อนอกบ้านแบบดั้งเดิมแล้ว MACO จะมุ่งสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งเราคาดว่า จะเป็นเทรนด์ของธุรกิจในโลกอนาคต โดยเฉพาะตลาดเกมโลกที่คาดว่าจะมีมูลค่าเกิน 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐในอีก 3 ปีข้างหน้า”

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของ อิ๊กดราซิล กรุ๊ป แรงไม่หยุด โชว์ฟอร์มเจ๋ง ไตรมาส 3/64 กำไรสุทธิ เติบโต 48% รับอานิสงค์งานด้านเกมและอินโนเวชั่น ขยายตัวต่อเนื่องทั้งไทยและตลาดโลก ส่งผลงวด 9 เดือนกำไรทะยาน 108% รุกเพิ่มทุนล็อตใหญ่ หวังยกระดับหุ้น YGG เข้า SET จัดสรรผู้ถือหุ้นเดิม 360 ล้านหุ้น สัดส่วน 1:2 ราคา 0.50 บาท พร้อมแจกฟรีวอร์แรนต์สัดส่วน 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ต่อ 1 หน่วยวอร์แรนต์ บอร์ดใจป้ำจ่ายปันผลเป็นหุ้นอัตรา 2.90322581 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล

คุณธนัช เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัท มีรายได้รวม 68.85 ล้านบาทบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 8.10 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 13% โดยมีกำไรสุทธิ 30.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 48% และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนของปีนี้ 76.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% จากงวด 9 เดือนปี 2563

ผลการดำเนินงานของบริษัทที่มีกำไรปรับเพิ่มขึ้น เป็นการเติบโตของรายได้การให้บริการเกมออนไลน์ Home Sweet Home Survive อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยบริษัทมีรายได้รายได้จากส่วนงานเกมและอินโนเวชั่นในไตรมาส 3/64 มีจำนวน 30.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 เท่ากับ 24% และสำหรับงวด 9 เดือนของปี 64 มีรายได้ 55.50 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้น 340% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้บริษัทมีรายได้จากส่วนงานโฆษณาและภาพยนตร์ในไตรมาส 3/64 มีจำนวน 26.07 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 21% เนื่องจากบริษัทได้มีการโยกทีมงานบางส่วนไปไว้ในส่วนงานทำโฆษณาเกม ขณะที่ส่วนงานด้านภาพยนตร์แอนิเมชั่นในไตรมาส 3/64 มีรายได้ 12.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 เท่ากับ 299% โดยงานด้านแอนิเมชั่นยังมีการเติบโตสูง จากตลาด streaming ในตลาดโลกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ในไตรมาส 3/64 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากส่วนงานเกมและอินโนเวชั่น 44 % รายได้จากงานโฆษณาและภาพยนตร์ 38% และมีรายได้จากส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น 18 %

คุณธนัช ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของบริษัท เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 256 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 90 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 346 ล้านบาท โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 512 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

วัตถุประสงค์การเพิ่มทุน เนื่องจากบริษัท มีแผนที่จะย้ายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) เข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มทุนเพื่อให้บริษัท มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งกำหนดให้บริษัท ต้องมีทุนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท รวมทั้งระดมทุน เพื่อรองรับโอกาสในการลงทุนของบริษัทในอนาคต ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปีข้างหน้า

สำหรับรายละเอียดการเพิ่มทุน บริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราจัดสรร 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.50 บาท รวมมูลค่า 180 ล้านบาท

คณะกรรมการบริษัทยังมีมติ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (YGG-W1) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1 ในอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1 ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน   โดยจะได้จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1 โดยไม่คิดมูลค่า คิดเป็นทุนจำนวน 45 ล้านบาท

“บริษัท กำหนดให้ใบสำคัญแสดงสิทธิYGG-W1 ในอัตราใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1 มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 1 หุ้นและกำหนดราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนภายใต้ใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1ที่หุ้นละ 12 บาท โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร YGG-W1 ในวันที่ 14 ก.พ. 2565” คุณธนัช กล่าว

นอกจากนี้บริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 62 ล้านหุ้น (พาร์ 0.50 บาท) เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลระหว่างกาล งวด 9 เดือนปีนี้ (1 ม.ค.-30 ก.ย.64) ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 2.90322581 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 31 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล ในวันที่ 14 ก.พ. 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 มี.ค.2565

คุณธนัชกล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัท มีการออกและเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น และการจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ บริษัท จะมีทุนชำระแล้วจำนวน 301 ล้านบาทซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่กำหนดให้บริษัท ที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯต้องมีทุนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการย้ายจากตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังต้องได้รับการอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 4 ก.พ. 2565เวลา 13.00น.ณ โรงแรมทาวน์อินทาวน์ เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 256 ล้านบาท และการจัดสรรผู้ถือหุ้นเดิม รองรับการออกวอร์แรนท์และการจ่าย

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ