หุ้นไทย (8 ธ.ค.64) คาดเคลื่อนไหวแดนบวก คลายกังวลโอมิครอนเชื้อไม่รุนแรง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (8 ธ.ค.64) คาดเคลื่อนไหวแดนบวก คลายกังวลโอมิครอนเชื้อไม่รุนแรง

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปปรับขึ้นได้ดี จากคลายกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนหลังสหรัฐเชื้อไม่รุนแรงแม้จะมีการแพร่ระบาดสูง

ราคาทองวันนี้ – 8 ธ.ค. 64 ปรับราคา 5 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 28,900

"ผู้ประกันตน ม.33" เตรียมลงทะเบียนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ผ่าน ระบบ e-service

 

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากคลายกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้มองว่ารอบนี้ไม่น่ากระทบความต้องการใช้น้ำมัน

ส่วนบ้านเราจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดลง มองดัชนีน่าจะปรับตัวขึ้นได้ นำโดยหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม, ท่องเที่ยว เป็นต้น และกลุ่มพลังงานก็น่าจะกลับมาด้วย อีกทั้งเงินบาทขณะนี้แข็งค่าขึ้นจึงน่าจะได้เห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาบ้าง

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตาม FTSE Rebalance ซึ่งจะมีผลวันที่ 20 ธ.ค.64, การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค., ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 16 ธ.ค., องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่จะประกาศสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอย่างไร รวมถึงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ

พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,624 จุด

ด้าน บล.ไทยพาณิชย์  คลายกังวล Omicron สถานีถัดไป ประชุมธนาคารกลาง
กลยุทธ์การลงทุน:

โอมิครอน คลายกังวล หลังผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรง ยังเป็นปัจจัยหนุน SET อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวต้านบริเวณ 1620-1625 จุด เริ่ม Upside จำกัด และประเด็นสำคัญถัดไปอยู่ที่สัปดาห์หน้า สำหรับการประชุมธนาคารกลาง โดยเฉพาะเฟดวันที่ 14-15 ธ.ค. อาจมีการลดนโยบายผ่อนคลายการเงินลง ตามถ้อยแถลงล่าสุดของ Powell เป็นปัจจัยกดดันดัชนี กลยุทธ์ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง ส่วนพอร์ตหลักจุดซื้อเพิ่มรอสัญญาณจากเราอีกครั้ง หลังเมื่อวานแนะนำซื้อสัดส่วน 50% ไปแล้ว

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหาจังหวะซื้อกลับหรือเพิ่มน้ำหนักพอร์ตหลัก หลังตลาดคลายกังวลเรื่องความรุนแรงของไวรัส Omicron และไทยพบผู้ติดเชื้อ Omicron รายแรกซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขเริ่มกลับเข้าซื้อที่กำหนดในสัปดาห์ก่อนแล้ว โดย

1) Core Portfolio : หาจังหวะเข้าซื้อ 25% ในหุ้นกลุ่ม Global Reopening ที่ราคาหุ้นปรับลงแรง อย่าง MINT CRC AOT TOP และอีก 25% ในหุ้น blue chip ซึ่งไม่โดนผลกระทบมากและ Valuation ไม่แพง อย่าง KBANK GPSC INTUCH SPALI  ขณะที่หุ้นกลุ่ม Domestic Reopening ที่น่าสนใจอย่าง KTC CPN BEM BTS ZEN M ยังแนะนำรอดูสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ในไทยก่อน

2) Weekly Portfolio : เก็งกำไรหุ้นพลังงานอย่าง BCP PTTEP ซึ่งราคาน้ำมันรีบาวน์หลังปรับตัวลงแรงและเร็วในสัปดาห์ก่อน รวมทั้งหุ้น EV อย่าง EA AH ซึ่งคาดได้ประโยชน์จากรัฐเตรียมออกมาตรการภาษีรถอีวีคันแรก

Daily Focus : Trading KCE ได้ประโยชน์จากอุปสงค์อีวีและอุปกรณ์สื่อสารเติบโตดี และ PSL หลังค่าระวางฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 โดยวานนี้ BDI Index ปรับขึ้นต่อ 3.62%DoD

สถานการณ์อื่นๆ 

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,719.43 จุด เพิ่มขึ้น 492.40 จุด (+1.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,686.75 จุด เพิ่มขึ้น 95.08 จุด (+2.07%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,686.92 จุด เพิ่มขึ้น 461.76 จุด (+3.03%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 337.29 จุด หรือ +1.19%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 106.36 จุด หรือ +0.44% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.73 จุด หรือ +0.22%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ธ.ค.)1,609.28 จุด เพิ่มขึ้น 21.09 จุด (+1.33%)
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 339.56 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 72.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.56 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ธ.ค.) อยู่ที่ 4.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.60 แข็งค่าหลังดอลลาร์อ่อนจากคลายกังวลโอมิครอน

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ