เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 บรรดาแม่ค้าส้มตำในจังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะที่ร้านพิสมัย หน้าวัดจียงอีศรีมงคลวราราม ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งถือว่าเป็นร้านส้มตำที่ขายดีมาก ในเขตเมืองศรีสะเกษ นับตั้งแต่เปิดร้าน เวลา 10.00 น. ยาวไปจนถึงเวลา 14.00 น. เรียกได้ว่ามือแม่ค้าไม่ได้หยุด ตำอยู่ตลอดเวลา ก็เนื่องจากลูกค้าติดใจในรสชาติฝีมือการตำของพี่พิศมัย ทำให้วันหนึ่ง ๆ ต้องใช้มะละกอเป็นจำนวนมาก ราว 5 ถุงๆ ละ 10 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยวันละ 50 กิโลกรัม
“จุรินทร์” แจ้งข่าวดี ! “มาม่า” ไม่ขึ้นราคา ช่วยลดภาระค่าครองชีพ
ซึ่งเมื่อก่อนปีใหม่เคยซื้อมะละกอเพียงถุงละ 50 บาท แต่วันนี้ ต้องแบกภาระแทนลูกค้า ด้วยการซื้อมะละกออยู่ที่ถุงละ 300 บาท นั่นคือราคาได้ปรับสูงขึ้นมากว่า 6 เท่าตัว และที่สำคัญวันนี้ไม่ใช่แค่มะละกอปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างเดียว ทั้งมะเขือเทศ พริกสด พริกแห้ง กระเทียม หรือแม้กระทั่งน้ำปลาร้าต้มสุก ก็มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ไม่มากนัก ซึ่งแม่ค้าส้มตำในจังหวัดศรีสะเกษตั้งโอดครวญไปตาม ๆ กัน ครั้นจะขอปรับราคาขายส้มตำต่อถุงเพิ่มขึ้น ก็สงสารลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขาประจำ จึงยังคงราคาเดิมไว้ที่เฉลี่ยถุงละ 30 - 40 บาท แม้จะรู้ว่าไม่คุ้มทุน แต่ก็ต้องทน เพราะเชื่อว่าอีกสักพักสถานการณ์คงจะดีขึ้น แต่หากราคามะละกอยังไม่มีการปรับลดราคาลง ก็อาจจะขอปรับราคาขายส้มตำต่อถุงเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ตอนนี้ยังคงราคาเดิมก่อนเพื่อชาวอีสานด้วยกัน
ตรึงราคาไข่ไก่ คละหน้าฟาร์ม 2.90 บาท วันนี้ (13 ม.ค.) วันแรก
นางพิสมัย พาคำสุข ร้านส้มตำหน้าวัดเจียงอี เล่าว่า ตอนนี้มะละกอราคาสูงขึ้นมาก จากที่เคยซื้อถุง 10 กิโลกรัม ราคา 40 – 50 บาท ตอนนี้ราคาขึ้นมาที่ 180 - 200 บาท ถ้ามะละกอที่ดีหน่อย ๆ ก็ตกที่ถุงละ 300 บาท โดยราคามะละกอดิบได้ขึ้นราคามาก่อนปีใหม่ ซึ่งไม่ได้แพงแค่มะละกอเท่านั้น ไก่ ปลา มะเขือเทศ พริก ก็ขึ้นราคา อย่างเช่น มะเขือเทศ ก็ขึ้นราคามา ถุง 10 กิโลกรัม 300 บาท แต่ตอนนี้ราคามะเขือเทศก็ถูกลงมาบ้าง ถุงละร้อยกว่าบาท แต่ก็ยังถือว่าราคายังสูงอยู่ แต่ตนก็ยังขายราคาเดิม ถึงต้นทุนสูงขึ้น ก็ยอมขายราคาเดิม เพราะว่าเราก็ส่งสารลูกค้า และอยากจะรักษาลูกค้าของเราไว้ด้วย
หมูแพง! ร้านหมูกระทะพัทยาขอตรึงราคาเพื่อลูกค้า
ด้านพ่อค้า - แม่ในตลาดสด ได้เล่าว่า ตอนนี้มะละกอดิบ และ ผักต่าง ๆ เริ่มมีราคาลงมาบ้างแล้ว ตอนนี้มะละกอถุง 10 กิโลกรัมอยู่ที่ 120 - 130 บาท ซึ่งเป็นเพราะชาวบ้านที่ทำนาเสร็จก็ได้ปลูกผักจำหน่าย และได้มีผลิตผลทางการเกษตรของชาวบ้านได้ออกมาแล้ว ทำให้ราคาผักต่าง ๆ ก็เริ่มลดราคาลง เป็นไปตามฤดูกาล