คมนาคม กางแผนลงทุนปี65 "บก-ราง-น้ำ-อากาศ" วงเงินสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศักดิ์สยาม เผยแผนปี 2565 ไทยจะมีโครงการลงทุนทั้งทางบก ทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ในวงเงินสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปาฐกถาพิเศษ “ชีวิตคนไทยจะดีขึ้นอย่างไรบนแผนคมนาคม” ในงานสัมมนา Thailand Future Smart & Sustainable Mobility ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ  กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนการพัฒนาระบบขนส่งของไทยในระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) โดยกระทรวงคมนาคมมีแผนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งที่เป็นแผนระยะกลางและแผนระยะยาว คือ

คมนาคม หารือชุมชนได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

 “ศักดิ์สยาม” ลั่น สู้คดีโฮปเวลล์ ให้ถึงที่สุด  

1. การคมนาคมขนส่งทางบก ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง 2 สายทาง คือ สายบางปะอิน - นครราชสีมา (M6) ระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 81,121 ล้านบาท และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) ระยะทาง 96.0 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 62,452 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้างทางพิเศษ สายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอก ระยะทางรวม 18.7 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 28,734 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567 ,โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (ยกระดับ) สายบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ช่วงที่ 1 ช่วงบางขุนเทียน - เอกชัย และช่วงที่ 2 ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว คาดว่าทั้ง 2 ช่วงจะแล้วเสร็จในปี 2567 และ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง 3 สายทาง คือ M5 ส่วนต่อขยายยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) M9 วงแหวนตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน - บางบัวทอง และ M7 ต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา

2. การคมนาคมขนส่งทางราง ได้แก่ การพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลตามแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะมีระบบรถไฟฟ้าทั้งหมด 14 เส้นทาง ระยะทางรวม 554 กิโลเมตร ,โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปการขนส่งระบบระบบรถไฟทั่วประเทศ  เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของประเทศ โดยเชื่อมโยงทั่วทุกภูมิภาคและรองรับการเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย, โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ซึ่งในปีนี้ได้เร่งดำเนินการ 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ - นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร และช่วงที่ 2 นครราชสีมา - หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร และ โครงการถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2571

เช็กที่นี่ ! รวมจุดฉีดวัคซีนโควิด ทั้งแบบลงทะเบียน และ Walk in

3. การคมนาคมขนส่งทางน้ำ ได้แก่ โครงการท่าเรือบก (Dry Port) จะเป็นศูนย์กลางในการขนถ่ายสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อส่งต่อไปทางรถไฟได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตรงเวลา ซึ่งตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือบกได้กำหนดพื้นที่ไว้ 4 จังหวัด คือ ขอนแก่น นครราชสีมา นครสวรรค์ และฉะเชิงเทรา

4. การคมนาคมขนส่งทางอากาศ ด้วยประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของผู้คนทั่วโลก โดยสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้ประมาณการนักท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ประเทศไทยว่าจะมีจำนวนสูงถึง 200 ล้านคน ในปี 2574 กระทรวงคมนาคมจึงมีความมุ่งมั่นที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ โดยมีโครงการพัฒนาท่าอากาศยายต่างๆ ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนเมษายนนี้, โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ขณะนี้กำลังเร่งรัดการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)ม โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 อยู่ระหว่างการประเมิน EIA เช่นกัน

ยื่นภาษีของปี 2564 ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91 และภาษีทุกประเภท ผ่าน E-FILING

เช็กมาตรการผ่อนคลาย! ศบค.ปรับพื้นที่โซนสี-ดื่มเหล้าในร้านได้ถึง 5 ทุ่ม

ซึ่งในปี 2565 ประเทศไทยจะมีโครงการลงทุนทั้งทางบก ทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ในวงเงินสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่ได้ลงนามสัญญาแล้ว 516,000 ล้านบาท และโครงการลงทุนใหม่ 974,000 ล้านบาท ด้วยวงเงินการลงทุนที่สูงนี้ มีการคาดการณ์เบื้องต้นว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 154,000 ตำแหน่ง และมีส่วนที่จะต้องจัดหาวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ รวมทั้งเครื่องจักรและยานพาหนะะต่าง ๆ ประมาณ 1.24 ล้านล้านบาท และจากการประเมินผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ด้วยสูตรคำนวณที่เป็นผลมาจากงานวิจัยของ Global Infrastructure Hub and Cambridge Economic Policy Associates ของสหภาพยุโรป จะทำให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณ หรือ Multiply Effect ประมาณ 4 แสนล้านบาท/ปี หรือคิดเป็น 2.35% ของ GDP

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ